หน้าแรก บล็อก
HA National Forum 25
จี้จุดคุณภาพ: มองอนาคตโรงพยาบาลผ่านมุมมองอนุกรรมการที่ปรึกษาเพื่อรับรองคุณภาพ
Quality Learning -0
บทบาทหน้าที่ของคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาเพื่อการรับรองคุณภาพ ให้คำแนะนำหรือเสนอแนะแก่ผู้อำนวยการในการพิจารณารับรองคุณภาพและเพิกถอนการรับรองคุณภาพ วิเคราะห์รายงานผลการเยี่ยมสำรวจกระบวนการคุณภาพของสถานพยาบาลเพื่อให้คำปรึกษาแก่ผู้อำนวยการ พิจารณาส่งข้อมูลหรือสอบถามประเด็นข้อสงสัยเพิ่มเติมจากคณะผู้เยี่ยมสำรวจ หรือมอบหมายผู้เยี่ยมสำรวจเข้าเยี่ยมสถานพยาบาลเพื่อรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการให้คำปรึกษาและปฎิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่คณะกรรมการมอบหมาย
Top 5 ประเด็นที่ให้ติดตามในการเยี่ยมสำรวจเพื่อเฝ้าระวัง ในปีงบประมาณ 2567 ได้แก่ คุณภาพทางคลินิกและการดูแลผู้ป่วย การวัดวิเคราะห์ การบริหารความเสี่ยง/มาตรฐานสำคัญจำเป็น ระบบการจัดการด้านยา บุคลากร การนำ(การกำกับดูแลทางคลินิก) และสิ่งแวดล้อม
คุณภาพการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการรับรองคุณภาพ HA โดยรวมดีขึ้นอย่างช้าๆ โรงพยาบาลคุณภาพต้องพัฒนาที่ดีขึ้นกว่าครั้งก่อนแบบมีหลักฐาน (evidence base) มีการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง พัฒนาเป็น Result Base Accreditation มีผลลัพธ์การพัฒนาตามมิติคุณภาพ ตามมาตรฐานตอนที่ 1 ถึงตอนที่ 4 ดีขึ้นจนถึง Impact และ
ผู้ป่วยมีความปลอดภัยมากขึ้น ตาม 3P safety goals การดูแลผู้ป่วยเชื่อมโยงจากโรงพยาบาลสู่ชุมชน สร้างสังคมสุขภาวะ สร้างความเข้มแข็งของชุมชน การวัด วิเคราะห์ ตั้งเป้าให้เป็น CQI จริงๆ คิดเป็น รู้จริง ทั้งการรักษาในโรงพยาบาล การป้องกันโรคและการเชื่อมโยงเชิงระบบ แยกตามแต่ละกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน กำหนดเป้าหมายที่ท้าทายขึ้นเพื่อเป็นโอกาสพัฒนา ระบบความเสี่ยงยังเข้าใจไม่ถูกต้อง ไม่ครอบคลุม ทำ Case Appoach...
HA National Forum 25
The Power of ENV: พลังของการลงมือทำนำการพัฒนาระบบสิ่งแวดล้อมในการดูแลผู้ป่วยที่ยั่งยืน
Quality Learning -
ประเด็นสำคัญที่ควรมีการดำเนินการต่อเนื่องเพื่อความยั่งยืนของการจัดการสิ่งแวดล้อมในการดูแลผู้ป่วย
1. บทบาทของผู้บริหารและทีมบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (ENV) ผู้บริหารควรลงพื้นที่เยี่ยมสำรวจสิ่งแวดล้อม ประชุมคณะกรรมการ คณะทำงาน กำกับติดตาม นำสู่การพัฒนาและปรับปรุง
2. การศึกษามาตรฐาน กฎหมาย ข้อบังคับต่างๆที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับด้านสิ่งแวดล้อม
3. การวางแผนกลยุทธ์ด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ต้องสนับสนุนทุกกลยุทธ์ของโรงพยาบาล
4. การบริหารความเสี่ยงและการติดตามด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ต้องวิเคราะห์ระบบการทำงาน กระบวนการทำงานด้านสิ่งแวดล้อม ค้นหาความเสี่ยงนำมาจัดทำ Risk Register ด้านสิ่งแลดล้อมและแผนป้องกันความเสี่ยง และติดตามอย่างต่อเนื่อง เช่น ไฟฟ้าลัดวงจรมีความเสี่ยงอะไรซ่อนอยู่บ้าง เป็นต้น
5. วางแผนปฏิบัติการ แนวทางดูแลระบบบำรุงรักษาและสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาล ต้องวางแผนให้ชัดและติดตามการอย่างต่อเนื่อง
6. วิเคราะห์บริบทหรือสถานการณ์ที่มีการปรับเปลี่ยนเพื่อดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
7. กำกับติดตามการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ แผนปฏิบัติการ/แนวทางที่วางไว้ สรุปผลการติดตามในรายงานการประชุม
8. ทบทวนกำหนดและติดตามตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม
การจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมในการดูแลผู้ป่วยให้ปลอดภัย
1. การจัดพื้นที่ในการให้บริการผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โดยเฉพาะพื้นที่คัดกรอง, พื้นที่ช่วยชีวิตฉุกเฉิน,
พื้นที่สังเกตอาการ, เส้นทางการเคลื่อนย้าย,การป้องกันการทาร้าย, การระบายอากาศ
2. การจัดพื้นที่ให้บริการผู้ป่วยนอก โดยเฉพาะ พื้นที่การคัดกรอง, รอรับบริการ, เส้นทางการเคลื่อนย้าย,
การช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน, การระบายอากาศ, ห้องน้ำ
3. การจัดพื้นที่ให้บริการผู้ป่วยในกรณีผู้ป่วยล้นออกมานอกหอผู้ป่วย โดยเฉพาะ สถานที่พักของผู้ป่วย,
การป้องกันฝน/แดด, การป้องกันฝุ่นละออง, การป้องกันสัตว์และแมลง, ห้องน้ำ, เครื่องมือและอุปกรณ์,
ความปลอดภัยจากอัคคีภัย, แสง/การระบายอากาศ
แนวทางการทบทวนปัญหาเพื่อการปรับปรุงสิ่งแวดล้อม
“ปัญหาและความท้าทายด้าน ENV ที่สถานพยาบาลประสบอยู่ สำเร็จได้ด้วยการวิเคราะห์ เรียนรู้ ลงมือทำและทำอย่างต่อเนื่อง”...
HA National Forum 25
R2R เมื่อ AI กําลังจะฉลาดใกล้เคียงมนุษย์ (AGI) บุคลากรการแพทย์ ต้องเตรียมพร้อมอย่างไร?
Quality Learning -
คนทํางานควร Reskill & Upskill อย่างไร เมื่อ AI ไม่ใช่เพียงแต่ผู้ช่วยเหลืออีกต่อไป
จากงานประจำ…สู่การพัฒนางานด้วย R2R การพัฒนางานในระบบสุขภาพไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นจากแนวคิดที่ยิ่งใหญ่เสมอไป เพราะในความเป็นจริง หลายปัญหาที่เกิดขึ้นในงานประจำของบุคลากรทางการแพทย์ ล้วนสามารถกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาคุณภาพงานผ่านกระบวนการที่เรียกว่า R2R (Routine to Research)
R2R คือการแปลงปัญหาหรือข้อสงสัยในงานประจำที่เราพบเจออยู่ทุกวัน มาเป็นคำถามวิจัยอย่างเป็นระบบ เพื่อศึกษาหาวิธีแก้ไขอย่างมีหลักการ และนำผลลัพธ์ที่ได้กลับไปใช้ปรับปรุงงานจริงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขั้นตอนของ R2R มีดังนี้
เริ่มต้นจากปัญหางานประจำ เช่น การให้บริการล่าช้า ความผิดพลาดในการสื่อสาร การบริหารเวชภัณฑ์ไม่เป็นระบบ ฯลฯ
ตั้งคำถามวิจัยและวางแผนการศึกษา เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม
เก็บข้อมูลและวิเคราะห์ผลลัพธ์ ด้วยวิธีการทางวิชาการ
นำผลการวิจัยไปปรับปรุงการปฏิบัติงาน ให้เกิดประโยชน์จริงและยั่งยืน
AI: พลังใหม่ของการทำ R2R ในปัจจุบัน เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามามีบทบาทในหลายด้านของวงการแพทย์ และเริ่มถูกนำมาใช้ในกระบวนการ R2R เพื่อ เพิ่มความรวดเร็ว ความแม่นยำ และลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน เช่น การรวบรวมข้อมูลวรรณกรรม การวิเคราะห์เบื้องต้น ไปจนถึงการสรุปผลลัพธ์
ก่อนก้าวสู่ AGI…เริ่มง่าย ๆ ด้วยการใช้ AI ช่วยทำ Literature Review หนึ่งในขั้นตอนที่ใช้เวลานานในการทำ R2R คือ การทบทวนวรรณกรรม...
“ความปลอดภัยไม่ใช่เพียงกฎ ระเบียบ แต่คือวัฒนธรรม ที่ต้องฝังรากลึกในทุกระดับของสังคม” “ความยั่งยืน ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง หรือคนแค่บางกลุ่มเท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำร่วมกัน เพื่อสร้างสังคมที่น่าอยู่และยั่งยืน”
ศ.วุฒิสาร ต้นไชย “สานพลังสร้างสังคมเกื้อกูล เพื่อสุขภาวะที่ยั่งยืนตลอดไป” อยู่ภายใต้แนวคิดหลัก ของการจัดงานครั้งนี้ คือ การสร้างวัฒนธรรมคุณภาพและความปลอดภัย โดยมีองค์ประกอบ ได้แก่ 1. สังคมเกื้อกูล : สังคมไทยมีทุนทางสังคมที่มีอัตลักษณ์พิเศษ คือ ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) ความปรารถนาที่ดีต่อกัน ต่อคนทั่วไป รู้สึกเกื้อกูลต่อกันเป็นพื้นฐาน ซึ่งความเกื้อกูลแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ ความเกื้อกูลโดยธรรมชาติ (เป็นธรรมชาติสังคมไทย) -By Nature ได้แก่ เครือญาติ (Kinship) สถาบันศาสนา/คำสอน และความรู้สึกเป็นคนชุมชนเดียวกัน (Sense of Community) และความเกื้อกูลที่ถูกสร้างขึ้น-By man made ได้แก่ การสร้างเครือข่าย (Network) องค์กรอาสาสมัครเพื่อสาธารณประโยชน์ (Volunteer Group/ Organization) และองค์กรเสมือนจริงที่รวมตัวในรูปแบบภาคประชาสังคม “เราจะรักษาความเกื้อกูลให้ยั่งยืนได้อย่างไร?” เราต้องมีความมั่นคงในเป้าหมาย/ อุดมการณ์/
ผลประโยชน์ เพื่อส่วนรวม ต้องมีสังคมคุณภาพ...
"งานได้ผล คนเป็นสุข"
การสร้างวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยผลการดำเนินงาน (Performance-Driven Culture) Performance-Driven Culture หรือ "วัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยผลการดำเนินงาน"
เป็นสิ่งที่หลายองค์กรพยายามสร้างเพื่อพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานทั้งในระดับบุคคลและองค์กรให้สูงขึ้น การสร้างวัฒนธรรมนี้เน้นไปที่การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน การให้ข้อเสนอแนะอย่างสม่ำเสมอ การมีผู้นำที่แข็งแกร่ง การปรับกระบวนการให้เหมาะสม และการสร้างแรงจูงใจที่ทำให้พนักงานมีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุผลลัพธ์ที่สูงขึ้น โดยหลักการที่สำคัญของวัฒนธรรมนี้ประกอบด้วยการวิเคราะห์ข้อมูล การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน การพัฒนาความสามารถของพนักงานและการให้รางวัลตามความสำเร็จของพวกเขา
ประโยชน์ของ Performance-Driven Culture ประโยชน์สำหรับองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพและการผลิต: การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนทำให้องค์กรสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การติดตามและวัดผลช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงกระบวนการต่างๆ ได้ทันเวลา
ปรับปรุงผลการดำเนินงานทางการเงิน: การทำงานที่ขับเคลื่อนด้วยผลช่วยเพิ่มผลกำไรและประสิทธิภาพในด้านการเงิน
เพิ่มนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์: วัฒนธรรมนี้ช่วยส่งเสริมให้พนักงานกล้าเสี่ยงและทดลองสิ่งใหม่ๆ ซึ่งนำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถเพิ่มขีดความสามารถให้กับองค์กร
เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า: การที่องค์กรสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น ทำให้มีความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์และบริการ
ดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถสูง: การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีทำให้พนักงานรู้สึกได้รับการยอมรับและท้าทาย ซึ่งช่วยดึงดูดพนักงานที่มีทักษะ
เพิ่มชื่อเสียงขององค์กร: องค์กรที่มีผลการดำเนินงานที่ดีจะได้รับการยอมรับในตลาดและสังคม
เพิ่มความพึงพอใจในงาน: การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและการได้รับการยอมรับจากผลงานทำให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าในงานที่ทำ
การพัฒนาทางอาชีพ: พนักงานจะมีโอกาสในการพัฒนาทักษะและความสามารถอย่างต่อเนื่อง
เพิ่มแรงจูงใจและความมุ่งมั่น: การได้รับข้อเสนอแนะและรางวัลกระตุ้นให้พนักงานมีความกระตือรือร้นในการทำงาน
ความสำเร็จและความภาคภูมิใจ: พนักงานรู้สึกภูมิใจในผลงานเมื่อได้รับการยอมรับและรางวัล
แนวทางในการสร้าง Performance-Driven Culture การสร้างวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยผลการดำเนินงานในองค์กรสามารถทำได้ผ่านหลายขั้นตอน โดยเน้นการมีผู้นำที่แข็งแกร่งและการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
1. Strong Leadership:
Role modeling: ผู้นำต้องเป็นตัวอย่างในการทำงานที่ดีและมีมาตรฐานสูง
Empower employees: สร้างความเชื่อมั่นให้พนักงาน โดยการให้พวกเขามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
Create a supportive environment: สร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขามีคุณค่า
2.Clear Expectations & Goals:
Well-defined goals: ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนทั้งในระดับบุคคลและองค์กร
SMART goals: ตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง วัดได้ สามารถทำได้ เป็นไปได้ และมีกรอบเวลา
Cascading goals: การสื่อสารเป้าหมายจากระดับสูงไปยังระดับล่างอย่างมีประสิทธิภาพ
3.Regular...
“สุขภาพดีเกิดขึ้นได้ ด้วยทีมหมอครอบครัว และประชาชนจะเป็นเจ้าของสุขภาพ”
พว.เพ็ญศรี วงษ์พุฒ โรงพยาบาลแม่จัน ประธานชมรมพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทย การได้มาทำงานในโรงพยาบาลชุมชน ซึ่งในอดียเคยปฏิบัติงานในทั้งห้องคลอด ห้องฉุกเฉิน แล้วได้ย้ายมาทำงานในชุมชน เพราะพบว่ามีเสน่ห์ เพราะต้องมี Soft skill ทำให้เมื่อมาทำงานในชุมชนแล้วจะหลงรัก “มาแล้วจะรู้ อยู่แล้วจะรัก” ด้วยการทำงานที่มีมาตรฐาน ปลอดภัยทั้งตัวเราและครอบครัว
ด้วยชมรมพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทย เป็นการรวมตัวกันของโรงพยาบาลชุมชน ทั้ง 12 เขตสุขภาพเพื่อ
การทำงานในชุมชนด้วยความเป็นวิชาชีพ มีการดำเนินงานด้านนโยบายที่มีความยุ่งยาก ซับซ้อนพร้อมกับเชื่อมโยง
กับกองการพยาบาล ทั้งนี้มีความท้าทายหลักของโรงพยาบาลชุมชน ที่มีหลายองค์ประกอบ ดังนี้
ทรัพยากรจำกัด งบประมาณไม่เพียงพอ, การขาดแคลนบุคลากร
ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การจัดการขยะทางการแพทย์, การใช้พลังงาน
การเข้าถึงบริการ พื้นที่ห่างไกล, ระบบส่งต่อผู้ป่วยไม่ทั่วถึง
การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ขาดเครื่องมือและระบบดิจิทัล
โดยความท้าทายต่างๆ จะประสานงานความใกล้ชิดกับอสม.และโรงพยาบาลชุมชน เพื่อนำนโยบายมาดำเนินการ
สู่ชุมชน เพื่อให้ประชาชนและบุคลากรสาธารณสุขมีสุขภาพดี เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ทำให้เกิดความภาคภูมิใจมีความอิ่มใจ ฉะนั้นการทำงานชุมชนเกิดเสน่ห์ เพราะ 1.รู้ทุกคน 2.รู้ทุกบ้าน 3.รู้เครือข่าย 4.รู้ปัญหา 5. รู้วิธีพัฒนา โดยผ่านกระบวนการในการลงพื้นที่
เนื่องจากระบบการกระจายอำนาจมีการถ่ายโอนภารกิจ สอน./รพสต. สู่ อปท.ซึ่งดำเนินการจากปีงบประมาณ 2542 ถึง 2568...
HA National Forum 25
Building Quality and Safety Systems While Learning from Mistakes: Diagnostic error
Quality Learning -
“ถ้าเรามองว่างานทุกงานคือโอกาส ไม่ใช่ภาระ เราจะมีความสุขในการทำงาน”
ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า
บทเรียนจากการวางระบบการดูแลผู้ป่วย Stroke Fast Tract เขตสุขภาพที่ 7 เป้าหมายของการดูแล Stroke คือ ผู้ป่วยเข้าถึงระบบบริการเร็วที่สุด แต่ปัญหาสำคัญที่พบคือ 1)ประชาชนไม่รู้อาการของโรค Stroke 2) ทำอย่างไรให้ผู้ป่วยเข้าถึงระบบบริการได้เร็วที่สุด เพื่อให้แพทย์ให้การวินิจฉัยที่รวดเร็ว ถูกต้อง และ 3) ทำอย่างไรให้ประชาชนมีความรู้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในการสร้าง Awareness ของโรคต่างๆ ต้องมีเทคนิคต่างๆมาช่วยเพื่อให้สามารถสื่อสารไปถึงประชาชนได้มากยิ่งขึ้น เช่น การทำหนังโฆษณา เป็นต้น
การวินิจฉัยโรคที่ดีและถูกต้อง มาจากปัจจัยสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1) ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และถูกต้องจากผู้ป่วย ญาติ ผู้เห็นเหตุการณ์ หลักฐานรอบข้าง 2) การแปลผลจากข้อมูลข้างต้น และ 3) การตัดสินใจจากข้อมูลและประสบการณ์ของแพทย์ ร่วมกับระบบที่วางไว้ ซึ่งการวินิจฉัยที่ผิดอาจทำให้เกิด adverse outcome ตามมา ทั้งนี้แนวทางการรักษาผู้ป่วย เริ่มจากการรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการซักประวัติผู้ป่วยและญาติ การตรวจร่างกาย แปลผลข้อมูล วินิจฉัย และให้การรักษาซึ่งมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการรักษาคือความพร้อมของสถานพยาบาล ศักยภาพของทีมแพทย์/พยาบาล
องค์ประกอบของการวินิจฉัยที่ถูกต้องและปลอดภัย
1. ระบบ IT ต้องมีความพร้อม...
HA National Forum 25
Best Practices for Implementing PDPA in the Healthcare: แนวทางปฏิบัติที่ดีในการใช้ PDPA ในระบบสุขภาพ
Quality Learning -
PDPA ไม่ใช่เรื่องของข้อจำกัด แต่คือแนวทางสร้างความมั่นใจให้กับทุกคนในระบบสุขภาพ
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) เป็นกฎหมายที่ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจากการนำ PDPA ไปปฏิบัติในโรงพยาบาล ทำให้เกิดข้อสงสัยจำนวนมาก โดยมีตัวอย่างคำถามที่พบบ่อยจากการนำ PDPA ไปปฏิบัติในโรงพยาบาล
การขอข้อมูลของโรงพยาบาล ตัวอย่างสถานการณ์ อำเภอ, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ขอข้อมูลผู้พิการ เพื่อนำไปทำบ้านให้ข้อมูลส่วนบุคคล คือ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลทั้งทางตรง เช่น รหัสประจำตัวประชาชน รหัสประจำตัวผู้ป่วย (Hospital Number: HN) หรือทางอ้อมที่ทำให้ระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้ ซึ่งในกรณีดังกล่าวมีข้อพิจารณาคือ เป้าหมายของการใช้งาน/กิจกรรมการประมวลผลที่ชัดเจน ซึ่งผู้เกี่ยวข้องได้แก่ เจ้าของข้อมูล ผู้ควบคุม (โรงพยาบาล), ผู้ประมวลผลข้อมูล (ผู้ที่ได้รับมอบหมายหรือทำตามคำสั่ง/เห็นชอบจากผู้ควบคุมข้อมูล)
ในกรณีดังกล่าว เป็นการรับส่งข้อมูลความพิการซึ่งเป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหวตาม PDPA มาตรา 26 ระหว่างผู้ควบคุมข้อมูล (โรงพยาบาลที่ใช้ข้อมูล) ในฐานะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูล และผู้ควบคุมข้อมูลข้อมูล (อำเภอ, อปท.) ในฐานะผู้รวบรวมข้อมูล มีประเด็นพิจารณาในเบื้องต้น คือ 1) ใช้ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการช่วยเหลือชีวิต โดยผู้พิการนั้นไม่สามารถให้ความยินยอมด้วยตนเอง 2) มีความพิการและจำเป็นต้องได้รับการดูแลที่บ้าน 3) การให้บริการทางการแพทย์การให้บริการทางสังคมสงเคราะห์ 4) การใช้ข้อมูลเพื่อให้ดำเนินการคุ้มครองทางสังคม
ตัวอย่างสถานการณ์ เจ้าหน้าที่สัสดี...
HA National Forum 25
Systematic process design for medication safety: Emergency medication, High Alert drug (HAD), Medication reconciliation
Quality Learning -
“ความร่วมมือเป็นปัจจัยสำคัญของความสำเร็จ”
“การ develop protocol ต้องทำเป็นทีม นโยบายชัด เป็นไปตามมาตรฐาน”
Systematic process design สำหรับ medical safety เป็นการประยุกต์แนวคิด 3C PDCA/DALI
ในการนำมาตรฐานสู่การปฏิบัติ ตามมาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ II-6 การกำกับดูแลด้านยาและสิ่งแวดล้อมสนับสนุน มีการกล่าวถึงการกำกับดูแลยาที่ต้องระมัดระวังสูง (High Alert Drug, HAD) การป้องกัน Medical Errors(ME)/Adverse Drug Event(ADE) และการจัดหาและเก็บรักษายาและเวชภัณฑ์ฉุกเฉินที่จำเป็น การปฏิบัติในการใช้ยา ความถูกต้อง ณ ช่วงรอยต่อ/ส่งต่อ (Medical reconciliation) นอกจากนี้การเกิด ME และ ADE ยังเป็น 1 ใน 9 มาตรฐานสำคัญจำเป็นอีกด้วย โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ ผู้ป่วยปลอดภัยจากการ
ใช้ยา
Emergency medications: CPR, Ambulance and antidotes
โดย นพ.พงศกร อธิกเศวตพฤทธิ์โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์
โรงพยาบาลมีนโยบายยาฉุกเฉิน ยาเร่งด่วนและยาสำรองนอกหน่วยเภสัชกรรม ดังนี้ มียาฉุกเฉินพร้อมใช้ทุกพื้นที่ กำหนดและดำเนินกระบวนการสำหรับการจัดเก็บ รักษา...
HA National Forum 25
ติวเข้ม PDSC(การรับรองเฉพาะโรค/ เฉพาะระบบ) ฉบับวงใน ขยับทีม PCT/ CLT อย่างไรให้ได้ผลลัพธ์
Quality Learning -
“PDSC ไม่ใช่แค่กระบวนการรับรอง แต่เป็นการพัฒนา คน ระบบ และวัฒนธรรมองค์กรไปพร้อมกัน ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเก่งของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เกิดจากการเก่งร่วมกัน ของทีมที่มีเป้าหมายเดียวกันเพื่อประโยชน์ของผู้ป่วย การขับเคลื่อน PDSC ต้องเริ่มจาก Passion และความเชื่อในคุณค่าของงาน ผสานกับการทำงานเป็นทีมที่มีความไว้วางใจและการสนับสนุนจากระบบที่เหมาะสม เมื่อทุกฝ่ายผสานพลังกันอย่างกลมกลืน ความเป็นเลิศที่ยั่งยืนจะเกิดขึ้นอย่างแท้จริง”
การรับรองเฉพาะโรค/เฉพาะระบบ (Program-based Disease Specific Certification: PDSC) เป็นกลไกเชิงวิชาการที่มุ่งพัฒนาระบบบริการสุขภาพให้มีความเป็นเลิศในด้านการดูแลผู้ป่วยโรคเฉพาะหรือระบบที่กำหนด โดยเน้นการยกระดับคุณภาพการดูแลให้มีมาตรฐานสูง มีความปลอดภัย และตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการอย่างมีประสิทธิภาพ PDSC ไม่เพียงเป็นเครื่องมือในการประเมินและรับรองคุณภาพ แต่ยังเป็นแนวทางในการ
บูรณาการการทำงานของทีมสหวิชาชีพเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทางคลินิกและประสบการณ์ผู้ป่วยที่ดีขึ้น
มุมมองจากผู้นำ
ศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช (คณะแพทยศาสตร์ศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล) การทำ PDSC เริ่มต้นด้วยคำว่า “Do the best for the most” ทำทุกอย่างดีที่สุดเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสังคมที่กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้” ท่านได้แชร์ประสบการณ์ของศิริราชในการทำ PDSC แรกคือ PDSC การผ่าตัดข้อเข่าเทียม ว่าเริ่มจากการสร้างวิธีคิด 1. เราอยากเป็นเลิศให้เป็นที่ประจักษ์เรื่องอะไรบ้าง? 2. การสร้างทีมสำคัญที่สุด ให้มองหาคนที่มีจิตวิญญาณมีความชอบคล้ายกัน คนที่ทำงานคล้ายกัน มาทำทีมร่วมกัน เห็นภาพเดียวกัน ทำในรูปแบบและบริบทของเราเอง ต้อง trust
ซึ่งกันและกัน เห็นประโยชน์เพื่อองค์กร...



















































