วันเสาร์, กันยายน 13, 2025
เวลาเขียนแบบประเมินตนเองของ สรพ.  คำๆหนึ่งที่โรงพยาบาลมักจะไม่ค่อยเข้าใจว่าจะให้เขียนอธิบายว่าอย่างไร และโรงพยาบาลก็ไม่เคยนำคำๆนี้ไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนจริงๆ คือคำว่า core competency ขององค์กร core competency ขององค์กร คือ กระบวนการหรือทักษะความเชี่ยวชาญสำคัญที่โรงพยาบาลมีอยู่ที่จะช่วยให้โรงพยาบาลสามารถทำงานได้ตามพันธกิจที่ตั้งไว้ ดังนั้น core competency จึงควรเป็นสิ่งที่โรงพยาบาลมีอยู่แล้ว หรือจะสามารถพัฒนาให้มีขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้ เพราะโรงพยาบาลต้องนำ core competency ไปใช้ในการขับเคลื่อนพันธกิจขององค์กร โดยทั่วไป core competency ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งจะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความโดดเด่นและสร้าง brand ให้กับโรงพยาบาลแห่งนั้น บางครั้งโรงพยาบาลไปนำวิสัยทัศน์ที่มีการกำหนดมา มาเป็น core competency ขององค์กร เช่น วิสัยทัศน์กำหนดว่า จะเป็นศูนย์ดูแลผู้ป่วยอุบัติเหตุ ก็เลยมากำหนด core competency ของโรงพยาบาลว่าคือ ความเป็นเลิศด้านการดูแลผู้ป่วยอุบัติเหตุ แต่สภาพความเป็นจริง ทั้งอาคารสถานที่ เครื่องมือ บุคลากร และกระบวนการทำงาน ไม่มีส่วนไหนที่แสดงความเป็นเลิศได้เลย ความเป็นเลิศด้านการดูแลผู้ป่วยอุบัติเหตุจึงไม่ใช่ core competency ของโรงพยาบาลแห่งนี้ บ่อยครั้งที่โรงพยาบาลนำความเชี่ยวชาญพิเศษของแพทย์เฉพาะทางที่มีอยู่ 1 คน มาบรรยายเป็น core competency ของโรงพยาบาล ซึ่งอาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้ คำถามง่ายๆ ที่โรงพยาบาลควรถามตนเอง คือ...
ในอดีต การฝึกทักษะของบุคลากรทางการแพทย์มักเกิดขึ้นภายใต้การให้บริการจริง โดยก่อนที่จะมีการฝึกทักษะ ผู้ฝึกจะได้รับการปูพื้นฐานความรู้มาแล้วเป็นอย่างดี หลังจากนั้น จึงเข้าสู่กระบวนการฝึกทักษะโดยผ่านการสังเกตสถานการณ์จริง – การทดลองทำภายในห้องฝึกหรือใช้อุปกรณ์จำลอง – และการปฏิบัติจริงภายใต้การกำกับดูแล (see – try – act) จากความก้าวหน้าในยุคปัจจุบัน การฝึกทักษะสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและปลอดภัยต่อผู้ป่วยมากขึ้น โดยการจำลองสถานการณ์เสมือนจริง (simulation) ในลักษณะต่างๆ เช่น การใช้หุ่นที่มีลักษณะทางกายภาพที่ใกล้เคียงมนุษย์ เพื่อให้บุคลากรเข้าใจถึงโครงสร้างทางกายภาพของระบบต่างๆ ในร่างกายมนุษย์ และบางกรณี หุ่นนี้ยังสามารถแสดงผลของการฝึกว่าบุคลากรทำได้ถูกต้องเพียงไรด้วย เช่น หุ่นเพื่อการฝึกทำหัตถการต่างๆ หุ่นเพื่อการฝึกการประสานงานของทีมในกระบวนการดูแลผู้ป่วย เช่น การช่วยฟื้นคืนชีพ การสร้าง application ที่ทำให้เกิดภาพตอบสนองที่เสมือนจริง เพื่อช่วยให้ผู้ฝึกเกิดทักษะในการทำหัตถการหรือการผ่าตัดโดยไม่ต้องไปทำบนตัวผู้ป่วยจริง ตัวอย่างเช่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อฝึกการใช้กล้องส่องทางเดินอาหาร โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อฝึกการผ่าตัดด้วยกล้อง การเรียนรู้ทักษะการทำงานอย่างประสานสอดคล้องกัน โดยใช้การเรียนรู้ผ่านเกมส์ที่ประดิษฐ์ขึ้นมา (gamification) การเรียนรู้จะมีประโยชน์มากขึ้น เมื่อมีการถ่ายวิดิโอเพื่อเก็บภาพเหตุการณ์ไว้ แล้วนำมาทบทวนอีกครั้งโดยเจ้าตัวหรือโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้เพื่อช่วยพัฒนาให้การดำเนินงานทุกขั้นตอนถูกต้องตามหลักวิชาการ และผู้เกี่ยวข้องทุกส่วนมีปฏิสัมพันธ์ที่เอื้อต่อการสร้าวประสิทธิภาพที่สูงสุดของกระบวนงาน ในแง่ของการทบทวนเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้น การจำลองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้งให้ใกล้เคียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แล้วบันทึกภาพของสถานการณ์ที่จำลองขึ้นมา จะช่วยให้เข้าใจลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้มากขึ้น เห็นภาพของบทบาทเจ้าหน้าที่แต่ละคนที่มีในขั้นตอนแต่ละขั้น และสังเกตเห็นพฤติกรรมบริการที่เบี่ยงเบนไปจากข้อแนะนำที่พึงปฏิบัติได้ง่ายขึ้น Photo by Kristopher Allison on Unsplash
ในการบริหารความเสี่ยงของโรงพยาบาล ขั้นตอนสำคัญขั้นตอนหนึ่งที่ต้องจัดทำ คือ การจัดลำดับความสำคัญของความเสี่ยง โดยใช้โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น มาทำเป็นตารางในลักษณะ matrix เพื่อกำหนดว่าความเสี่ยงใดที่มีความสำคัญที่ต้องบริหารจัดการเป็นลำดับต้นๆ ในสงครามโลกครั้งที่สองและสงครามเวียดนาม มีเครื่องมือตัวหนึ่งชื่อ CARVER ที่กองทัพใช้ในการวิเคราะห์ว่า ระบบงานใดของฝ่ายตรงข้ามที่ถ้าถูกโจมตีแล้วจะเกิดผลกระทบกับฝ่ายตรงข้ามมาก จะได้เลือกเป้าโจมตีที่คุ้มค่าที่สุด ในทางกลับกัน ถ้าเป็นฝ่ายตั้งรับ ก็ใช้ CARVER ในการวิเคราะห์ว่า ถ้ามีทรัพยากรอันจำกัด จะเลือกป้องกันระบบงานใดจึงจะดีที่สุด   CARVER เป็นคำย่อของ Criticality ระบบงานนี้มีความจำเป็นมากแค่ไหนต่อการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของหน่วยงาน Accessibility ระบบงานนี้ง่ายต่อการถูกรบกวนหรือโจมตี มากน้อยแค่ไหน Recoverability การฟื้นฟูให้ระบบงานนี้กลับมาทำงานได้ปกติ ยากง่ายเพียงไร Vulnerability ระบบงานนี้มีความทนต่อการถูกรบกวนหรือโจมตี มากน้อยเพียงไร Effect ผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ที่จะเกิดขึ้น ถ้าระบบงานนี้ไม่สามารถทำงานได้ Recognizability โอกาสที่ระบบงานนี้จะได้รับความสนใจจากผู้รบกวนหรือผู้โจมตี คะแนนที่ให้ในแต่ละด้าน คือ 5 มีผลสูงสุด และ 1 มีผลต่ำสุด CARVER อาจนำมาประยุกต์ใช้กับโรงพยาบาลได้ ตัวอย่างเช่น มีระบบงานสำคัญของโรงพยาบาลอยู่ 3 ระบบ ที่อาจถูกรบกวนหรือโจมตี ซึ่งเมื่อวิเคราะห์ด้วย CARVER แล้ว พบว่า การลงทุนป้องกันความเสี่ยงด้านระบบสารสนเทศคุ้มค่าที่สุด ระบบงาน C A R V E R รวม สารสนเทศ 4 4 3 4 3 5 23 ระบบไฟฟ้า 4 2 3 2 4 3 18 ระบบออกซิเจน 3 2 3 2 4 2 16   Photo by Markus Spiske on Unsplash  
การประชุม Seventh Meeting on Health-Care Quality Improvement in the Asia-Pacific Region วันที่ 10 – 11 ธันวาคม 2561 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ มีสาระสำคัญ คือ การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Universal Health Coverage – UHC) ต้องมีคุณภาพเป็นเป้าหมายสำคัญ ในช่วงที่ผ่านมา การดำเนินงานด้าน UHC จะเน้นอยู่ที่การสร้างหลักประกันสุขภาพที่ครอบคลุมประชากรทั้งหมด ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม และภายใต้ต้นทุนที่สามารถบริหารจัดการได้ แต่ในช่วงถัดจากนี้ไป การดำเนินงานด้าน UHC จะเน้นเรื่องคุณภาพของระบบบริการ เพราะคุณภาพเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากของ UHC ถ้าระบบบริการสุขภาพไม่มีคุณภาพแล้ว ถึงประชาชนจะมีสิทธิเข้าถึง แต่ก็คงไม่มีใครอยากไปใช้บริการ “คุณภาพ” มีความหมายได้หลากหลายมิติ แต่ในการประชุมครั้งนี้ ได้แบ่งมิติของคุณภาพ เป็นด้านประสิทธิผล, ความปลอดภัย, ผู้คนเป็นศูนย์กลางของการจัดบริการ, ให้บริการได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม, สร้างความเท่าเทียม, มีการบูรณาการ และมีประสิทธิภาพ ข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก คือ การสร้างคุณภาพในระบบบริการสุขภาพ จำเป็นต้องมีการขับเคลื่อนโดยการกำหนดเป็นนโยบายและยุทธศาสตร์ระดับชาติ มีการจัดสรรทรัพยากรอย่างเหมาะสม และมีการพัฒนาเครื่องมือที่ช่วยในการพัฒนาคุณภาพ องค์ประกอบ 8...
อาหารและโภชนบำบัด และการจัดการความปวด
ในมาตรฐานฉบับใหม่ได้มีการปรับปรุงรายละเอียดของการจัดการความปวดให้ชัดเจนมากขึ้น กล่าวคือ - ทีมดูแลผู้ป่วยควรมีการคัดกรองและประเมินความปวดอย่างครอบคลุม ทั้งความปวดเฉียบพลันและความปวดเรื้อรัง ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม - ผู้ป่วยได้มีโอกาสที่จะรับรู้ถึงความปวดที่จะเกิดขึ้นจากการดูแลรักษา การทำหัตถการ หรือการตรวจพิเศษ และได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกวิธีการจัดการความปวดที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการจัดการความปวด เช่น การคลอด ซึ่งอาจเลือกใช้การคลอดทางช่องคลอด การผ่าตัดคลอดโดยการดมยา หรือการผ่าตัดคลอดโดยการให้ยาชาเข้าทางไขสันหลัง ผู้ป่วยควรรู้ว่าความปวดของแต่ละวิธีการรักษาจะมีมากขนาดไหน จะมีวิธีจัดการความปวดได้อย่างไร และผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นจากการให้ยาแก้ปวดจะมีอะไรบ้าง Photo by Jesper Aggergaard on Unsplash
ในมาตรฐานฉบับใหม่ มีการเพิ่มเติมในประเด็น - ควรมีการประเมินความชอบส่วนบุคคล ทั้งนี้ เพื่อให้ทีมงานสามารถจัดบริการได้อย่างสอดคล้องกับความต้องการของผู้ป่วย การตอบสนองความชอบส่วนบุคคลมักจะทำให้ผู้ป่วยผ่อนคลายกับบรรยากาศที่ต้องมาอยู่ในโรงพยาบาลมากขึ้น ตัวอย่างความชอบส่วนบุคคล เช่น การเรียกคำแทนตัวผู้ป่วย เสื้อผ้า อาหารเครื่องดื่ม มื้ออาหาร การให้คนเข้าเยี่ยม แต่เรื่องนี้ ไม่ได้คาดหวังว่าโรงพยาบาลจะต้องไปสร้างแบบฟอร์มใหม่ ให้เป็นภาระของเจ้าหน้าที่ในการกรอกข้อมูล แต่มุ่งหวังให้เจ้าหน้าที่มีความไวมากขึ้นในการรับรู้ความต้องการของผู้ป่วย - การให้ความสำคัญกับการลดความผิดพลาด/ ความล่าช้า ในการวินิจฉัยโรค เนื่องจากประเด็นนี้กระทบต่อความปลอดภัยของผู้ป่วย และยังเป็นปัญหาสำคัญของโรงพยาบาล คลินิก และงานบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยควรมีการทบทวนเหตุการณ์ความผิดพลาด/ ความล่าช้า ในการวินิจฉัยโรค โดยทีมงานที่ประเมินผู้ป่วยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาโอกาสในการพัฒนากระบวนการประเมินผู้ป่วยให้มีความถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็วมากขึ้น Photo by Glenn Carstens-Peters on Unsplash
จากเหตุการณ์ที่มีผู้ป่วยตกเตียงในขณะเคลื่อนย้าย ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บป่วยรุนแรงขึ้น และนำมาซึ่งการเรียกร้องความรับผิดชอบจากโรงพยาบาล เหตุการณ์ในลักษณะนี้น่าจะสามารถป้องกันได้นระดับหนึ่ง โดยการปฏิบัติงานที่มีความรัดกุมมากขึ้น Association of Surgical Technologists (AST) ในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แนะนำแนวปฏิบัติที่ดีที่ช่วยลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในขณะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยด้วยเตียง โดยมีรายละเอียดดังนี้ ตรวจสอบสภาพของเตียงว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ขาเตียง ราวกั้น ล้อ เข็มขัดรัดผู้ป่วยสามารถล็อคได้จริง เอาราวกั้นเตียงขึ้นทุกครั้ง ในขณะเคลื่อนย้าย คาดเข็มขัดรัดผู้ป่วยกับเตียงให้เรียบร้อย ตรวจสายน้ำเกลือ สายสวนปัสสาวะ สายระบาย (drain) และสายชนิดอื่นๆ ว่าวางถูกต้องและยึดติดกับตำแหน่งอย่างแน่นหนา ขวดเก็บของเสียและถุงปัสสาวะให้แขวนอยู่ห่างจากศีรษะผู้ป่วย มั่นใจว่าศีรษะ แขน และขา ได้รับการปกป้องจากการถูกกระแทก โดยผู้ป่วยยังคงรู้สึกสบายตามสมควร ในขณะเข็นเตียง ควรให้เท้าของผู้ป่วยนำไปข้างหน้า หลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในช่วงเลี้ยว เพื่อป้องกันการตกเตียงและการทำให้ผู้ป่วยเวียนศีรษะ ผู้เข็นเตียงควรอยู่ด้านศีรษะของผู้ป่วยเพื่อเฝ้าระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งจากการที่ผู้ป่วยอาการทรุดลงขณะเคลื่อนย้าย หรือการมีสิ่งกีดขวางระหว่างทาง ถ้ามีผู้เข็นเตียง 2 คน คนที่สองควรอยู่ด้านเท้าผู้ป่วย ไม่ใช้เตียงดันประตูห้องให้เปิด เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ กรณีใช้ลิฟต์ ควรล็อคประตูลิฟต์ขณะเข็นผู้ป่วยเข้าไป และควรนำศีรษะผู้ป่วยเข้าไปก่อน มีการสื่อสารกับผู้ป่วยเป็นระยะ และคลุมผ้าให้ผู้ป่วยตลอดเวลา เพื่อป้องกันการเผยร่างกายส่วนต่างๆ ที่อาจสร้างความอับอายให้ผู้ป่วย Photo by Hush Naidoo on Unsplash
มีหลายครั้งที่โรงพยาบาลสอบถามมาที่ สรพ. ถึงความหมายของคำบางคำที่ต้องบรรยายใน Hospital Profile 2018 แต่โรงพยาบาลไม่แน่ใจว่าคำเหล่านี้จะให้เขียนบรรยายใน Hospital Profile 2018อย่างไร ตารางข้างล่างน่าจะช่วยให้โรงพยาบาลเห็นภาพและสามารถบรรยายหัวข้อเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น คำใน Hospital Profile 2018 ความหมาย ตัวอย่าง ลักษณะองค์กร(Organization Characteristic) สิ่งที่เมื่อบรรยายแล้วทำให้เห็นภาพกว้างๆของโรงพยาบาลแห่งนั้น ข้อความที่ควรบรรยาย เช่น ขนาดโรงพยาบาล ต้นสังกัด ที่ตั้ง โรงพยาบาลชุมชนขนาด 30 เตียง สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ตั้งอยู่ที่ภาคกลาง ห่างจากอำเภอเมือง 15 กิโลเมตร บริการหลัก (core services) บริการสำคัญที่มีการให้บริการตามขนาดและความเชี่ยวชาญของโรงพยาบาล ให้การดูแลรักษาพยาบาลในระดับทุติยภูมิ และให้บริการงานส่งเสริมสุขภาพ ควบคุมป้องกันโรค ฟื้นฟูสภาพ และการจัดบริการด้านการแพทย์แผนไทยอย่างเป็นองค์รวม สมรรถนะหลักขององค์กร (core competency) เป็นสิ่งที่องค์กรมีความชำนาญมาก และเป็นสิ่งที่จะช่วยให้องค์กรทำงานบรรลุตามพันธกิจที่กำหนดไว้ - การบูรณาการการดูแลการแพทย์แผนปัจจุบันเข้ากับการแพทย์แผนไทย โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน - การพัฒนาเจ้าหน้าที่ในด้านมิติจิตวิญญาณและประสานมิติด้านจิตวิญญาณเข้าไปในการดูแลผู้ป่วย Photo by Ivars Krutainis on Unsplash  
Hospital Profile คือสรุปข้อมูลสำคัญของโรงพยาบาล ซึ่งแสดงให้เห็นบริบทที่เป็นตัวกำหนดทิศทางการทำงานของโรงพยาบาล Hospital Profile 2018 จัดทำบน Excel เพื่อช่วยรพ.ในการสรุปข้อมูลสำคัญอย่างกระชับ และตรวจสอบความสัมพันธ์ขององค์ประกอบต่างๆ เพื่อพิจารณาความสมบูรณ์และความเป็นเหตุเป็นผล. ใน file Excel แบ่งเป็น 6 sheets โดย Sheet ที่ 1 Front page เป็น sheet ที่อธิบายวิธีการกรอกข้อมูลใน Excel Sheet ที่ 2 Entry และ Sheet ที่ 3 Statistic เป็น sheet ที่ใช้กรอกข้อมูล โดยกรอกข้อมูลในเซลล์สีเหลืองเท่านั้น หลีกเลี่ยงการ insert หรือ delete cell เพราะอาจมีผลกระทบต่อ diagram ในsheet 4, 5, 6 Sheet ที่ 4 VMV & CC เป็น diagram แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง vision, mission,...
Control Chart เป็นเครื่องมือคุณภาพชิ้นหนึ่งที่มีประโยชน์ในการติดตามประเมินผลการดำเนินงาน โดยในการผลิตสินค้าและให้บริการ Control Chart จะช่วยให้ทีมงานสามารถดักจับปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนงานได้อย่างรวดเร็ว และเข้าไปแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงทีก่อนที่ปัญหาจะลุกลามและส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อองค์กร สำหรับงานพัฒนาคุณภาพ  Control Chart ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือเพื่อบ่งชี้ว่าการพัฒนากระบวนการงานที่นำมาใช้ได้ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม หรือไม่ หลักการสำคัญของ Control Chart คือ การคำนวณหาค่าเฉลี่ยของตัวชี้วัดในช่วงที่ผ่านมาเพื่อสร้างเส้นกลาง และคำนวณค่า upper control limit (UCL) และ lower control limit (LCL) เพื่อใช้ในการติดตามค่าตัวชี้วัดในช่วงถัดไป ถ้าค่าตัวชี้ค่าที่กำลังติดตามอยู่มีลักษณะเข้ากับเกณฑ์ที่กำหนด ย่อมเป็นข้อบ่งชี้ว่า ค่าตัวชี้วัดกำลังมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจริง ไม่ใช่เป็นเพียงความแปรปรวนตามปกติของค่าที่วัดได้ เกณฑ์เหล่านี้ ได้แก่ An outsider คือ มีจุดใดจุดหนึ่งอยู่นอก control limit คือสูงกว่า UCL หรือต่ำกว่า LCL A shift or a trend คือ มีจุด 7 จุดต่อเนื่องกันเหนือหรือใต้เส้นกลาง, หรือมีจุด 7 จุดต่อเนื่องกันที่มีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน คือเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หรือลดลงต่อเนื่อง An unusual...
- Advertisement -

MOST POPULAR

HOT NEWS