ถอดรหัสพิมพ์เขียวการพัฒนาบุคลากร (HRD Blueprint)

0
13
ถอดรหัสพิมพ์เขียวการพัฒนาบุคลากร (HRD Blueprint)

ผลงานขององค์กรจะไม่มีประสิทธิภาพ ถ้าคนไม่ได้รับการพัฒนา”

HRD Blueprint คือ แนวทางการพัฒนาบุคลากรที่เป็นระบบ และมีความต่อเนื่อง ครอบคลุมบุคลากรทุกคนในองค์การ โดยบุคลากรจะได้รับการพัฒนาอย่างสมดุลในทุกด้านเพื่อตอบสนองการเติบโต และการเปลี่ยนแปลงขององค์การในอนาคต อีกทั้งสอดรับกับแนวคิดการพัฒนาองค์การอย่างยั่งยืน

HRD Blueprint สามารถนำไปใช้ในการบริหารจัดการพัฒนาคนในองค์กรให้ตอบโจทย์ทิศทางขององค์กรและนำไปสู่ความยั่งยืน

HRD Outcome/Challenge ผลลัพธ์ของการพัฒนาคน ได้แก่

  1. เพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพของบุคลากร
  2. เตรียมความพร้อมตอบรับการเปลี่ยนแปลง
  3. พัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน

ส่วนความท้าทายที่สำคัญ คือ ความสอดคล้องของการพัฒนาและทิศทางองค์กร นอกจากนี้ยังมีความท้าทายในประเด็นของค่าใช้จ่ายในการอบรมและพัฒนาบุคลากร  และความหลากหลายของบุคลากร

ยุคของการบริหารคน มีดังนี้

  • HR 1.0 ยุคการบริหารงานบุคคล (Personnel management) : Task-based Training มีการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะในงาน
  • HR 2.0 ยุคการบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HR management) : Competency-based TD & Training Roadmap มีการฝึกอบรมเชิงสมรรถนะและจัดทำเส้นทางการฝึกฝึกอบรมตั้งแต่แรกเข้าจนถึงการเติบโตในสายอาชีพ
  • HR 3.0 ยุคการบริหารทุนมนุษย์ (Human Capital management) : Holistic HRD with HRD Blueprint มีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์แบบองค์รวมและจัดทำแผนพัฒนาด้วยวิธีผสมผสาน
  • HR 4.0 ยุคคู่คิดเชิงธุรกิจงานทรัพยากร (HR Bu Partner) : Individual Development Plan มีการจัดทำแผนพัฒนาส่วนบุคคล มุ่งเน้นการพัฒนาตามปัจเจกบุคคลเพื่อให้บุคลากรได้รับการพัฒนาสอดคล้องกับศักยภาพของตน
  • HR 5.0 ยุคดิจิทัลของงานด้านทรัพยากรมนุษย์ (Digital HR) : Self-directed Learning Culture มีการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยผ่านกลไกการส่งเสริมและจูงใจบุคลากร

หลักการสำคัญในการจัดทำ HRD Blueprint

  1. ต้องครอบคลุมบุคลากรทุกคนในองค์กร
  2. มีความเป็นระบบและต่อเนื่องตั้งแต่บุคลากรแรกเข้าทำงานจนกระทั่งออกจากองค์กร
  3. มีความเชื่อมโยงกับงาน HR ด้านอื่นๆ เช่น การสรรหา คัดเลือก การประเมินผลงาน การจ่ายค่าตอบแทนและสวัสดิการ
  4. มีการบูรณาการการพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยรวมถึงสถานะทางการเงิน และสุขภาพกาย/ใจของบุคลากรด้วย
  5. ควรจัดทำภายใต้กรอบด้านงบประมาณที่มีการจัดสรรที่สอดคล้องกัน มีการทบทวนประสิทธิภาพของการใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด
  6. มีการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีเพื่อติดตามการพัฒนาบุคลากร

ขั้นตอนการจัดทำ HRD Blueprint

  1. เข้าใจทิศทางและความต้องการขององค์กร : วิสัยทัศน์ ทิศทางนโยบายขององค์กรและของประเทศ แผนยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ขององค์กรในช่วง 3-5 ปี เพื่อถอดภาพความต้องการขององค์กรให้ทราบว่าองค์กรต้องการคนแบบใด คนต้องรู้อะไร แล้วจึงกำหนดแผนพัฒนาให้ตรงตามความต้องการ
  2. เข้าใจคนและบริบทการทำงานของคน : วิเคราะห์ความสามารถของบุคลากร ณ ปัจจุบัน ความหลากหลาย และข้อจํากัดด้านการพัฒนา
  3. ออกแบบหัวข้อและเป้าหมายของการพัฒนา : คนต้องเก่งขึ้นในงาน (ทุกตําแหน่ง) คนต้องพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง คนต้องเติบโตมีความก้าวหน้าในงาน คนต้องมีสุขภาพกายและใจที่ดี เป็นต้น
  4. รวบรวมหลักสูตร/เครื่องมือ/โครงการพัฒนาที่มีอยู่ : ดูระบบงาน HR อื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาร่วมด้วย เช่น ด้าน IT ด้านการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
  5. ระบุช่องว่างของการพัฒนา : หัวข้อที่ยังไม่เคยดำเนินการพัฒนา กลุ่มคนที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา
  6. ติดตามและประเมินผลการพัฒนา : ประเมินผลทั้งรายหลักสูตร/โครงการ และความสำเร็จของเป้าหมายการพัฒนา

โครงร่างการจัดทำ HRD Blueprint  ประกอบด้วย

  1. แกนนอน เป็นการกำหนดหัวข้อและเป้าหมายการพัฒนา ได้แก่ สมรรถนะในการทำงาน ค่านิยมและวัฒนธรรม  ความก้าวหน้า (Career) สุขภาพกายใจและสมดุลชีวิต
  2. แกนตั้ง เป็นการจัดกลุ่มบุคลากร ซึ่งอาจจัดกลุ่มเป็นผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารระดับกลาง หัวหน้างาน วิชาชีพเฉพาะ และระดับปฏิบัติการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับองค์กรกำหนดเอง

สิ่งสำคัญหลังจากกำหนดโครงร่างแล้วคือการออกแบบการพัฒนาและกำหนดเป้าหมายของการพัฒนาที่สอดคล้องกัน ประกอบด้วย

  1. หลักสูตร/เครื่องมือ/โครงการพัฒนา : Efficiency HRD Activities & Process และ HRD Objectives เป็นการกำหนดการออกแบบการพัฒนา (หัวข้อการเรียนรู้ วิธีการสร้างการเรียนรู้ บริบทของผู้ถูกพัฒนา ฯลฯ)
    วิธีดำเนินการพัฒนา/สอน และวัตถุประสงค์ หรือผลการเรียนรู้/พัฒนา (ความรู้ ทักษะ ความสามารถ)
  2. หัวข้อการพัฒนา : Effectiveness HRD Outcomes และ Organizational Impacts เป็นการกำหนดผลที่คาดว่าจะได้รับ ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงพฤติกรรมในการทำงาน/การนำไปใช้ และผลกระทบที่เกิดกับบุคคล/องค์กร

การกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ ตาม Kirkpatrick evaluation model แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ดังนี้

  • Level 1 Reaction ความพึงพอใจต่อกระบวนการเรียนรู้
  • Level 2 Learning ความรู้ ทักษะที่เพิ่มขึ้น
  • Level 3 Behavior มีการนำความรู้ไปใช้จนเกิดพฤติกรรมที่ต้องการ
  • Level 4 Impact มีผลกระทบต่อเป้าหมายขององค์กร

บทสรุป การออกแบบการพัฒนาเพื่อให้เกิดพฤติกรรมในการทำงานซึ่งเป็นผลที่คาดว่าจะได้รับจากการพัฒนาต้องทราบว่าบุคลากรของเราควรรู้อะไร (Knowledge) ทำอะไรได้ (Skill) และเป็นคนแบบใด (Attitude) ภายใต้สถานการณ์ในการทำงานที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล Knowledge Skill Attitude จึงเป็นองค์ประกอบของสมรรถนะบุคลากร ทั้งนี้สิ่งสำคัญในการออกแบบการพัฒนาต้องมีการใช้ข้อมูล (Management by Facts)
และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ผู้ถอดบทเรียนนางธนิตา พินิชกชกร
หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาคุณภาพบริการและมาตรฐาน โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ครีเอทีฟคอมมอนส์
งานนี้ใช้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ แบบแสดงที่มาไม่ใช้เพื่อการค้า ไม่คัดแปลง

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here