How to create a Performance -Driven Culture

0
15
How to create a Performance -Driven Culture

“งานได้ผล คนเป็นสุข”

การสร้างวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยผลการดำเนินงาน (Performance-Driven Culture) Performance-Driven Culture หรือ “วัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยผลการดำเนินงาน
เป็นสิ่งที่หลายองค์กรพยายามสร้างเพื่อพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานทั้งในระดับบุคคลและองค์กรให้สูงขึ้น การสร้างวัฒนธรรมนี้เน้นไปที่การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน การให้ข้อเสนอแนะอย่างสม่ำเสมอ การมีผู้นำที่แข็งแกร่ง การปรับกระบวนการให้เหมาะสม และการสร้างแรงจูงใจที่ทำให้พนักงานมีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุผลลัพธ์ที่สูงขึ้น โดยหลักการที่สำคัญของวัฒนธรรมนี้ประกอบด้วยการวิเคราะห์ข้อมูล การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน การพัฒนาความสามารถของพนักงานและการให้รางวัลตามความสำเร็จของพวกเขา

ประโยชน์ของ Performance-Driven Culture ประโยชน์สำหรับองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพและการผลิต: การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนทำให้องค์กรสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การติดตามและวัดผลช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงกระบวนการต่างๆ ได้ทันเวลา

ปรับปรุงผลการดำเนินงานทางการเงิน: การทำงานที่ขับเคลื่อนด้วยผลช่วยเพิ่มผลกำไรและประสิทธิภาพในด้านการเงิน

เพิ่มนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์: วัฒนธรรมนี้ช่วยส่งเสริมให้พนักงานกล้าเสี่ยงและทดลองสิ่งใหม่ๆ ซึ่งนำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถเพิ่มขีดความสามารถให้กับองค์กร

เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า: การที่องค์กรสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น ทำให้มีความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์และบริการ

ดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถสูง: การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีทำให้พนักงานรู้สึกได้รับการยอมรับและท้าทาย ซึ่งช่วยดึงดูดพนักงานที่มีทักษะ

เพิ่มชื่อเสียงขององค์กร: องค์กรที่มีผลการดำเนินงานที่ดีจะได้รับการยอมรับในตลาดและสังคม

เพิ่มความพึงพอใจในงาน: การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและการได้รับการยอมรับจากผลงานทำให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าในงานที่ทำ

การพัฒนาทางอาชีพ: พนักงานจะมีโอกาสในการพัฒนาทักษะและความสามารถอย่างต่อเนื่อง

เพิ่มแรงจูงใจและความมุ่งมั่น: การได้รับข้อเสนอแนะและรางวัลกระตุ้นให้พนักงานมีความกระตือรือร้นในการทำงาน

ความสำเร็จและความภาคภูมิใจ: พนักงานรู้สึกภูมิใจในผลงานเมื่อได้รับการยอมรับและรางวัล

แนวทางในการสร้าง Performance-Driven Culture การสร้างวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยผลการดำเนินงานในองค์กรสามารถทำได้ผ่านหลายขั้นตอน โดยเน้นการมีผู้นำที่แข็งแกร่งและการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน

1. Strong Leadership:

Role modeling: ผู้นำต้องเป็นตัวอย่างในการทำงานที่ดีและมีมาตรฐานสูง

Empower employees: สร้างความเชื่อมั่นให้พนักงาน โดยการให้พวกเขามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

Create a supportive environment: สร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขามีคุณค่า

2.Clear Expectations & Goals:

Well-defined goals: ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนทั้งในระดับบุคคลและองค์กร

SMART goals: ตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง วัดได้ สามารถทำได้ เป็นไปได้ และมีกรอบเวลา

Cascading goals: การสื่อสารเป้าหมายจากระดับสูงไปยังระดับล่างอย่างมีประสิทธิภาพ

3.Regular Feedback & Coaching: การให้ข้อเสนอแนะอย่างสม่ำเสมอและการโค้ชเพื่อพัฒนาความสามารถของพนักงาน

4.Accountability & Consequences: การให้พนักงานรับผิดชอบต่อผลงานของตัวเอง พร้อมทั้งกำหนดผลลัพธ์ที่คาดหวัง

5.Continuous Improvement: การเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและการปรับปรุงกระบวนการเพื่อให้ประสิทธิภาพดีขึ้นในอนาคต

6.Recognition & Reward: การยอมรับและให้รางวัลพนักงานตามผลงานที่พวกเขาทำ

การใช้เครื่องมือและข้อมูลในการวิเคราะห์ การสร้าง Performance-Driven Culture ยังเกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องมือและการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงาน 1.การใช้ตัวชี้วัด (Leading Indicators): การวัดผลลัพธ์ในอนาคตช่วยให้สามารถคาดการณ์และปรับกลยุทธ์ได้ทันเวลา 2.สัญญาณอ่อน (Weak Signals): การสังเกตสัญญาณที่ดูเหมือนจะไม่ชัดเจน แต่สามารถช่วยในการคาดการณ์ทิศทางขององค์กรได้ 3.Benchmarking: การเปรียบเทียบผลการดำเนินงานขององค์กรกับมาตรฐานหรือองค์กรอื่น ๆ เพื่อหาวิธีปรับปรุง

การเรียนรู้จาก Recommendation โดยการวิเคราะห์ผลลัพธ์จากการทำงานที่มีการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ผ่านการทำ การวิเคราะห์ ที่มุ่งเน้นการหาความรู้และการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ได้มาภายใต้กระบวนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับองค์กร

การวิเคราะห์ผลลัพธ์จากการทำงาน การวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend Analysis) การวิเคราะห์เปรียบเทียบกับเป้าหมายหรือมาตรฐาน (Benchmark Analysis) การวิเคราะห์เพื่อหาความสัมพันธ์ที่เสถียร (Stable Relationships) การวิเคราะห์ระหว่างช่วงเวลาหรือกลุ่มงานต่าง ๆ (Comparative Analysis) การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ Input/Process กับ Outcome เพื่อหาความเชื่อมโยงและผลลัพธ์ที่ได้จากกระบวนการต่างๆ

การใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่วิเคราะห์
1. การปรับเปลี่ยนการจัดการทรัพยากร: ปรับการจัดการทรัพยากรให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
2. การพัฒนาผลลัพธ์ที่ยั่งยืน: การพัฒนาองค์กรและการทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อลดความไม่สมดุลในกระบวนการ 3. การปรับปรุงกระบวนการให้เป็น best practice: การนำสิ่งที่ดีที่สุดมาปรับใช้เพื่อพัฒนาองค์กรและกระบวนการทำงาน4
4. การสร้างนวัตกรรม: การคิดค้นและสร้างกระบวนการใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพกระบวนการที่สำคัญในการวิเคราะห์ผลลัพธ์เพื่อให้เกิดการพัฒนาและปรับปรุงในองค์กร โดยการเน้นไปที่การใช้ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์มาเพื่อ ปรับปรุงกระบวนการ และ สร้างการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นในระยะยาว

การสร้าง Performance-Driven Culture เป็นแนวทางสำคัญที่องค์กรสามารถใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลการดำเนินงาน โดยการเน้นไปที่ผู้นำที่แข็งแกร่ง การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน การให้ข้อเสนอแนะอย่างสม่ำเสมอ และการปรับกระบวนการทำงานให้อยู่ในทิศทางที่ดี การใช้เครื่องมือวิเคราะห์และข้อมูลก็มีความสำคัญในการช่วยประเมินและปรับปรุงกระบวนการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ผู้ถอดบทเรียน นางสาวปุณณ์ยวิภา ทวีโชคธนะพงศ์
โรงพยาบาลซีจีเอช พหลโยธิน

ครีเอทีฟคอมมอนส์
งานนี้ใช้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ แบบแสดงที่มาไม่ใช้เพื่อการค้า ไม่คัดแปลง

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here