เกินความคาดหมาย แต่ยังหยุดไม่ได้

0
7785

เกินความคาดหมาย แต่ยังหยุดไม่ได้

“ตอนนั้นรู้สึกจะเป็นนายกสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล  ก็ได้ออกไปในโรงพยาบาล ในสังกัดของรัฐ ได้เห็นอะไรมากมายแล้วก็มีความรู้สึกว่า ทำไมแต่ละเเห่ง  การทำงานมันไม่ค่อยเหมือนกัน มีอะไรหลายๆอย่างซึ่งน่าจะเป็นบทบาทของเภสัช  แต่เภสัชไม่ได้ทำ น่าจะเป็นบทบาทใน เชิงปฎิบัติเชิงการวิชาชีพ มากกว่านี้ไหม    ก็เลยช่วยกันทำมาตราฐานเภสัชกรรมโรงพยาบาลและเราก็เริ่มมาเห็นว่า เราน่าจะเอาอันนี้นำ ลงสู่การปฏบัติในโรงพยาบาล”

รศ.ภญ.ธิดา นิงสานนท์  เล่าถึงจุดเริ่มต้น

 

บังเอิญที่มีมาตรฐานโรงพยาบาลจากอาจารย์อนุวัฒน์  มันก็สอดรับกันพอดีเราก็เลยรู้สึกว่ามีกำลังใจ เพราะว่าในการที่ จะนำ HA ลงปฏิบัติในโรงพยาบาล    ระยะแรก อาจจะยังเป็นเรื่องของสมัครใจเฉยๆ เเต่พอระยะหลังมันเป็นนโยบาย  ซึ่งโรงพยาบาลต่างๆก็มาร่วมกันให้ความร่วมมือและผลักดันเรื่องของมาตรฐานวิชาชีพ  เพราะคิดว่า วิชาชีพเราน่าจะปฏิบัติวิชาชีพกับผู้ป่วยได้มากกว่าที่เป็นอยู่  ในอดีตเภสัชกร แทบจะไม่เคยเจอคนไข้เลยนะคะ ก็เช็คยาอย่างเดียวส่งให้   ผู้ช่วยเอายาให้กับคนไข้ ไม่มีการเเนะนำ ไม่มีการซักประวัติเรื่องแพ้ยา  เราก็อยู่ในห้องสี่เหลี่ยม ไม่เคยเจอคนไข้   เภสัชกรน่าจะเจอกับคนไข้บ้างนะ นะคะเพราะเราจะได้ช่วยได้หลายๆ เรื่องเลยแม้เเต่การช่วยสกรีนนิ่งในเรื่องการสั่งยาของแพทย์

 

ซึ่งมันเป็นแรงบันดาลใจหลายๆอย่าง พอเราสามารถที่จะแก้และทำให้มันเป็นไปตามมาตรฐานได้ มันก็เป็นกำลังใจ ตัวเองก็อยากจะทำงานต่อ ผลักดันงานต่อไปให้มันเป็นไปตามมาตรฐานเรื่อยๆ ก็มี Process จะทำยังไงเราก็ช่วยกันคิดแล้วก็ เข้าไปดูว่าอะไรที่มันเหมาะกับสถานการณ์หรือบริบท ในโรงพยาบาล อันนี้ต้องยอมรับเลยว่า HA  มีส่วนมาก ถ้าเกิดไม่มีเรื่องนี้เข้ามาอยู่ด้านหลังและผลักดัน เราจะมาไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ค่ะ เพราะว่าลำพังของเภสัชกรเองเราไม่มีพลัง พอที่จะไปทำให้ผู้บริหารเขายอมเปลี่ยนแปลง

 

อันนึ่งคิดว่าเป็นเพราะการที่ทำกิจกรรมนักศึกษาตอนนั้นเป็นคณบดีของฝ่ายกิจการนักศึกษาอยู่เจ็ดปี คือเจอกับเด็กสารพัดรูปแบบต้องช่วยเค้าจริงๆในการแก้ปัญหาแม้แต่ ปัญหาชีวิต คือสารพัดรูปแบบเลย แต่เราก็ช่วยเขาทุกอย่าง เยอะมากตอนนั้นแต่ว่ามีความรู้สึกว่า “เราได้ช่วยคนเป็นความสุข  อย่างเช่นให้เขาเข้ากับพ่อแม่ได้นั้นก็อย่างหนึ่งแล้ว ช่วยให้เขาสามารถเรียนจนจบได้นั้นก็อย่างหนึ่ง เคยแม้กระทั่งต้องไปจิกมาจากบ้านให้มาสอบ แล้วเด็กเหล่านี้พอเขาจบไปแล้วเค้าก็ยังระลึกถึงเรา     อันนี้มันเป็นอะไรที่เป็นแรงบันดาลใจว่าเราต้องช่วยเหลือคนนะ  เพราะชีวิตเราเองเราสมบูรณ์แล้ว พี่คิดอย่างนั้น มันจะสมบูรณ์หรือเปล่าไม่รู้แต่พี่คิดว่ามันสมบูรณ์”

 

พี่ยังไม่ได้พูดถึงสังคมนะคะพี่พูดถึงการยอมรับของคนในโรงพยาบาลเท่านั้นพี่ก็คิดว่าเกินความคาดหมาย  คือเราต้องยอมรับว่าอาจารย์อนุวัฒน์ เธอทุ่มเทมากและนั่นเป็นแรงบันดาลใจอันหนึ่งของพี่ อยากช่วย   เห็นความทุ่มเท เห็นความขยัน  พี่ว่า HA มันเกิดขึ้นได้เพราะอาจารย์อนุวัฒน์    ตอนนี้เราก็มาเกินความคาดหมาย  แต่ถามว่าเราหยุดได้ไหม มันยังนะคะ พี่ว่ามันยัง   แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีกระบวนการนี้เข้ามา   เค้าบอกสมัยก่อนเราชอบพูดว่าคุณภาพมันเหมือนสายน้ำที่จะวิ่งต่ำไหลลงสู่ที่ต่ำตลอด  คนทำงานที่นี่ก็ต้องเข้าใจว่าบริบทของตัวเองคืออะไรด้วย จะต้องเปลี่ยนกระบวนการไหม

 

คนที่ปฏิบัติวิชาชีพ  มันต้องเริ่มจากการมีตัวอย่างที่ดี  พี่จะไปเริ่มจากโรงเรียนทั้งหลาย คือโรงเรียนทางสุขภาพทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น  แพทย์เภสัช พยาบาล เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด  อาจารย์ทั้งหลายต้องเข้าใจ ต้องเข้าใจแนวคิดของคุณภาพแล้วก็กระบวนการ ปฏิบัติคุณภาพในวิชาชีพของตัวเอง แล้วก็ใส่ให้กับนักศึกษาที่จะจบออกมาเป็นผู้ปฏิบัติวิชาชีพ ให้เข้าใจลึกซึ้ง   ในทุกๆวิชาที่สอนต้องสอดใส่แนวคิดนี้ลงไป ซึ่งมันทำได้ เพราะว่าเราเคยเป็นครูมาก่อน แต่ต้องให้มันเป็นธรรมชาติ  รวมทั้งครูอาจารย์ก็ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีด้วย   ขณะเดียวกันก็ต้องไปพัฒนาคนที่จบออกมาแล้วให้เข้าใจ concept   พี่ยังคิดว่าความเข้าใจเป็นพื้นฐานของคุณภาพ ถ้าไม่เข้าใจก็ กลับที่เดิม พอคนรุ่นหนึ่งที่รู้ออกไปมันก็กลับที่เดิม มันเป็นอย่างนั้นล่ะค่ะนี่คือความคิดของพี่

รศ.ภญ.ธิดา นิงสานนท์
#QualityTheSeries

Add Friend
Add Line Friend:@hathailand

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here