วันอาทิตย์, กันยายน 14, 2025
Speak Up 2P Safety Day
วันที่ 17 กันยายน ในปีก่อน WHO และทั่วโลกให้ความสำคัญกับเรื่อง Patient Safety เมื่อมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ได้รู้ว่าคนไข้จะปลอดภัยได้อย่างไร ถ้าบุคลากรไม่ปลอดภัย ในปี 2020 บุคลากรทั่วโลกเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ความรุนแรง การบาดเจ็บจากการทำงาน สังคม ความท้อแท้ การฟ้องร้องต่างๆ เกิดขึ้นดังนั้นปีนี้ 2020 WHO จึงกำหนด theme ในประเด็น Health Worker Safety: A Priority for Patient Safety ประเทศไทยขับเคลื่อน Personnel Safety มาตั้งแต่ปี 2560 ตั้งแต่การประเมินตนเองพบสิ่งที่เป็นพัฒนาและได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์จนได้ประกาศ Thailand Patient and Personnel Safety Goals เป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับสถานพยาบาล เกิดแนวทางการเรียนรู้จาก Incident Report ต่างๆ ที่เรียกว่า NRLS ประกาศเป็นนโยบายเรื่อง 2P Safety ในปี 2561 ในปี 2563 ประกาศนโยบายความปลอดภัยของบุคลากร และกำหนดให้มีแนวทางมาตรฐานสำคัญจำเป็นเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับการรับรองคุณภาพตามมาตรฐาน HAด้วยแนวคิดที่ว่า...
  วันนี้เคล็ดลับงานคุณภาพ ชวนมาเรียนรู้ เรื่อง "Home Care & Self Care" กันครับ โรคภัยไข้เจ็บในปัจจุบันได้เปลี่ยนลักษณะไปเรื่อยๆ โดยการเจ็บป่วยแบบเฉียบพลัน (เช่น โรคติดเชื้อชนิดต่างๆ) ลดปริมาณลง แต่โรคเรื้อรังกลับเป็นปัญหาที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังเป็นกระบวนการดูแลรักษาที่ไม่สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว แต่มีความจำเป็นที่ผู้ป่วยจะต้องได้รับการดูแลที่บ้าน (home care) หรือต้องดูแลเอาใจใส่ตนเอง (self care) มากกว่าการเจ็บป่วยแบบเฉียบพลัน จากการที่ประเทศไทยได้ประกาศพระราชบัญญัติระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. 2562 เพื่อใช้เป็นกรอบในการพัฒนาบริการสุขภาพปฐมภูมิ ประกอบกับความก้าวหน้าอย่างมากของเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้การบูรณาการและเชื่อมโยงระบบบริการสุขภาพทั้งหมดอย่างไร้รอยต่อ (seamless care) โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง (people-centered care) มีโอกาสที่จะก้าวหน้าไปอย่างมาก ดังนั้น home care และ self care จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาให้สอดรับการแนวคิด seamless care นั่นคือ home care และ self care ต้องเป็นองค์ประกอบหนึ่งของสายธารแห่งคุณค่า (value chain) ที่ครอบคลุมทั้ง hospital services และ primary care ตัวอย่างของ home care...
Performance Measurement
วันนี้เคล็ดลับคุณภาพ ชวนมาเรียนรู้ Performance Measurement  วัดอย่างไรให้ได้ผล ท่าน นพ.อนุวัฒน์ ศุภชุติกุล ได้บรรยายสรุปเรื่องการวัดไว้ โดยย่อ..ดังนี้ การวัดผลอยู่ในมาตรฐาน HA 1-4.1 การวัด การวิเคราะห์ และใช้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงผลงานขององค์กร และการประเมินตนเองใน Part IV ซึ่งควรกำหนดว่าจะวัดอะไร ด้วยอะไร และนำผลที่ได้ไปใช้ประโยชน์ อย่างไร การวัดเพื่อการพัฒนาจึงให้ความสำคัญที่การนำไปใช้ประโยชน์ เป็นการประเมินการทำงานประจำ การเปรียบเทียบกับผู้อื่น ทำให้เรามั่นใจว่าสิ่งที่ทำทำได้ดีแล้ว 📍📍ผลการดำเนินการ (Performance) หมายถึงผลสำเร็จของงานที่ได้รับมอบหมายซึ่งวัดเทียบกับวัตถุประสงค์หรือมาตรฐานที่กำหนดไว้แล้ว (เช่น ความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ค่าใช้จ่าย ตันทุน) 📌📌ทำไมต้องวัด..มีความสำคัญอย่างไร การพัฒนาคุณภาพจำเป็นต้องมีการวัด ✅วัดเพื่อการควบคุมกระบวนการให้เป็นไปตามที่ออกแบบไว้ ✅วัดเพื่อรับทราบการบรรลุเป้าหมาย ✅วัดเพื่อปรับแผนหากไม่บรรลุเป้าหมาย ✅วัดเพื่อกำหนดเป้าหมายในรอบต่อไปให้ท้าทายยิ่งขึ้น ‼️‼️ แล้วจะวัดอย่างไร?? 1) ผสมผสานตัววัดจากหลายแหล่งเข้าในระบบเดียวกันและจัดกลุ่มใหม่ 2) ใช้แนวคิดการวัดเพื่อการพัฒนา ลดโทนของการวัดเพื่อ judgment/accountability เมื่อผลงานไม่ดี เรามีแผนจะทำอย่างไร และเราจะทำอย่างไรให้ดีขึ้น 3) ใช้แนวคิด 3P เพื่อทำให้การวัดผลชัดเจนมากขึ้น ทั้งระดับองค์กร ระบบงาน และหน่วยงาน โดยเฉพาะผลลัพธ์การดูแลผู้ป่วย เป็น Priority น่าจะทำให้ได้ดี ใช้ 3P ในทุกระดับทำให้เกิดการทำทุกพื้นที่ และสอดคล้องกัน ทั้งองค์กร ระบบงานและหน่วยงาน 4)ทำให้เป้าหมายสมบูรณ์ขึ้น (โดยพิจารณา Context, Criteria,...
New services in Primary Care
เคล็ดลับงานคุณภาพ วันนี้ชวนมาเรียนรู้เรื่อง New services in Primary Care กันนะครับ ตามที่ประเทศไทยได้มีการประกาศพระราชบัญญัติระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. 2562 เพื่อใช้เป็นกรอบในการพัฒนาบริการสุขภาพปฐมภูมิที่เป็นธรรม มีคุณภาพ และมีมาตรฐาน ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นในรูปแบบการจัดบริการสุขภาพของโรงพยาบาล ซึ่งจะมีความเชื่อมโยงและสัมพันธ์กับเครือข่ายบริการมากยิ่งขึ้น อันจะทำให้บริการสุขภาพปฐมภูมิมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาไปอย่างมากในอนาคตอันใกล้ ตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น ได้แก่ 1. รูปแบบบริการเดิมจะมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น จากการนำแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลประชาชนมากยิ่งขึ้น - การสร้างเสริมสุขภาพ และควบคุมป้องกันโรค - การให้บริการทางการแพทย์ที่ไม่ซับซ้อน - บทบาทของ Gate keeper 2. New services ที่กำลังจะเกิดขึ้น บริการเหล่านี้มีลักษณะสำคัญ คือ จะมีการออกแบบกระบวนการให้ต่อเนื่องและเชื่อมโยงกับโรงพยาบาลแม่ข่าย · การตรวจเลือดและการเก็บสิ่งส่งตรวจ เพื่อนำเลือดและสิ่งส่งตรวจไปตรวจที่โรงพยาบาล และการถ่ายเอกซเรย์  (ถ้าทำได้) เพื่อส่งข้อมูลไปโรงพยาบาล · การเป็นหน่วยให้การรักษาแบบ Tele medicine ร่วมกับโรงพยาบาล · การเป็นจุดรับยาที่ส่งมาจากโรงพยาบาล ในกระบวนงาน Drug delivery สำหรับผู้ป่วยที่ไปตรวจที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว · การเป็นจุดเชื่อมต่อในการทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นในรูปแบบ Intermediate care center หรือ rehabilitation center หรือการเป็น node ของ home care ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ · การเป็น...
New Services in Hospitals
เคล็ดลับงานคุณภาพ วันนี้ชวนมาเรียนรู้ New Services in Hospitals กันครับ ภายใต้การเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉม (Disruptive change) ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่วมกับแรงกดดันจากการระบาดของ COVID-19 ทำให้บริการสุขภาพของโรงพยาบาลต้องมีการปรับโฉมครั้งใหญ่ เพื่อรองรับคลื่นยักษ์ของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะถาโถมเข้าใส่ในไม่ช้า ตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแล้วและที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ได้แก่ 1. การปรับระบบบริการผู้ป่วยนอก เพื่อลดความแออัดและลดโอกาสแพร่กระจายของเชื้อโรค - การจัดตั้ง ARI Clinic การปรับโครงสร้างทางกายภาพ และการจัดการเรื่องการป้องกันการติดเชื้อ - การจัดระบบนัดหมายและคิวการตรวจด้วย Application และ device ใหม่ๆ - การนำ Artificial Intelligence (AI) เข้ามาช่วยในการตรวจวินิจฉัยโรค - การนำเครื่องจัดยาอัตโนมัติเข้ามาช่วยลดระยะเวลารอคอยยาและลดความผิดพลาดในการจัดยา - การสร้าง Network เพื่อกระจายภาระงานออกจากโรงพยาบาล ไปยังหน่วยพันธมิตร ได้แก่ · การเจาะเลือด, เก็บ Specimen หรือทำรังสีวินิจฉัย ภายนอกที่ตั้งโรงพยาบาล แล้วส่งเลือด หรือ Specimen หรือข้อมูล มาจัดการต่อที่โรงพยาบาล · การตรวจรักษาผู้ป่วย ด้วย Telemedicine · การให้ผู้ป่วยที่มาตรวจที่โรงพยาบาลไปรับยาที่หน่วยบริการปฐมภูมิ ร้านยาใกล้บ้าน หรือส่งให้ถึงที่บ้าน โดยสร้างระบบ Logistic มารองรับการส่งยา - การจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลด้วย E-Payment -...
New Normal in Healthcare จากการระบาดของ COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้วิถีการดำรงชีวิตและรูปแบบของงงานบริการจำนวนมากต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ซึ่งการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างไม่น่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงชั่วคราว แต่น่าจะกลายเป็นวิถีปฏิบัติปกติในอนาคต (New normal)บริการสุขภาพก็จะเกิด new normal ขึ้นเช่นเดียวกัน โดยกรมการแพทย์ได้ร่วมกับสภาวิชาชีพและตัวแทนจากโรงพยาบาล จัดทำแนวทางปฏิบัติเพื่อรองรับสถานการณ์ COVID-19 ในเรื่องการดูแลรักษาผู้ป่วยใน, ผู้ป่วยฉุกเฉิน, บริการฟื้นฟู, ผู้ป่วยวิกฤต, การรักษาทางทันตกรรม การทำหัตถการและการผ่าตัด ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้จาก Website : COVID19.dms.go.th หลักคิดสำคัญที่ใช้ในการวางแนวทางปฏิบัติเหล่านี้ สามารถสรุปได้ดังนี้ 1.หลักทั่วไปสำหรับทุกงานบริการสุขภาพ 1.1 ลดความแออัด เพื่อสร้างระยะห่างระหว่างบุคคล (Physical distancing) โดยปรับปรุงกระบวนการนัดผู้ป่วย, มีการใช้ telemedicine, การจำกัดจำนวนญาติที่จะมาเยี่ยม 1.2 มีการไหลเวียนของอากาศที่เพียงพอ และจัดทิศทางการไหลของอากาศไปในทิศทางเดียว จากพื้นที่สะอาดไปพื้นที่ที่อาจมีการปนเปื้อนเชื้อโรค 1.3 สร้างวัฒนธรรมการทำงานแบบ Universal precautions เช่น การใช้ PPE ที่เหมาะสม, การล้างมือ, การทำความสะอาดอาคารสถานที่อย่างสม่ำเสมอ, การวางระบบ Contact tracing 1.4 ลดโอกาสสร้างละอองฝอย (Aerosol) และลดโอกาสสัมผัสเชื้อในระหว่างการดูแลผู้ป่วย เช่น ไม่ใช้อุปกรณ์ Nebulizer...
business continuity management
     วันนี้เคล็ดลับงานคุณภาพ  ชวนคิด ชวนมองชวนมาเรียนรู้ เรื่องBCM เพื่อความอยู่รอดอย่างยั่งยืน กันครับ  BCM จะเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้นเมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 Business Continuity Management เป็นเรื่องที่อยู่ในมาตรฐาน HA TQA MBNQA สำหรับมาตรฐาน HA อยู่ใน Part I -6.2 ข. (2) ที่กล่าวว่า..องค์กรมีการเตรียมความพร้อมของระบบงานและสถานที่ทำงานต่อภัยพิบัติหรือภาวะฉุกเฉิน  โดยคำนึงถึงการป้องกัน การบริหารจัดการ ความต่อเนื่องของการให้บริการ BCM ตาม ISO 22301 หมายถึง กระบวนการบริหารโดยองค์รวม ที่ระบุถึงภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับองค์การ และผลกระทบ ของภัยอันตรายที่มีต่อการปฏิบัติการทางธุรกิจ รวมถึงให้แนวทางสำหรับการสร้างความยืดหยุ่นให้กับองค์กร สำหรับการตอบสนองอย่างมีประสิทธิผลในการปกป้องผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ รวมถึงชื่อเสียง ตราสินค้า และกิจกรรมที่สร้างคุณค่า ทั้งนี้การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ จะประกอบด้วยการจัดการสำหรับการฟื้นคืนสภาพ หรือความต่อเนื่องของกิจกรรมธุรกิจ เมื่อเกิดการหยุดชะงักทางธุรกิจ และการบริหารโปรแกรมโดยรวมผ่านการฝึกอบรมการฝึกซ้อม และการทบทวน เพื่อให้มั่นใจว่าแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจยังคงเป็นปัจจุบัน และทันสมัย BCM ทำให้มั่นใจว่าเมื่อมีเหตุการณ์ไม่ปกติแล้ว รพ.สามารถดำเนินการให้องค์กรบรรลุเป้าหมายได้ ซึ่ง รพ. ถ้าจัดทำและนำมาใช้ประโยชน์ จะทำให้เกิดความมั่นใจทั้งเจ้าหน้าที่ ลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย BCM สัมพันธ์กับ Risk...
COVID-19 กับ การจัดการสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาล
COVID-19 กับ การจัดการสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาล แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาลเพื่อรองรับ COVOD-19 อาจารย์เชาวลิต เมฆศิริกุล วิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสิ่งแวดล้อมและอากาศ และ อาจารย์โกเมธ นาควรรณกิจ รองผู้อำนวยการ สรพ. ได้แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาลเพื่อรองรับ COVOD-19 ใน Facebook Live ของ สรพ. เมื่อ 11 มีนาคม 2563 มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้ 1. หลักการจัดการการไหลเวียนของอากาศ - ให้อากาศไหลไปในทิศทางเดียว โดยใช้พัดลมขนาดใหญ่เป่าเพื่อบังคับทิศทางลมให้อากาศไหลจากที่สะอาดมากไปที่สะอาดน้อย ดึงอากาศเสียออกทางด้านข้างหรือด้านหลังผู้ป่วย จัดแบ่งโซนบริการให้เหมาะสม - หลีกเลี่ยงการใช้พัดลมที่ติดตั้งที่เพดาน เพราะจะทำให้เชื้อมีโอกาสฟุ้งกระจายได้นานขึ้น - ทางที่อากาศไหลออกในระยะสิบเมตรจะต้องไม่มีผู้คนสัญจรหรือมีสิ่งกีดขวาง แต่ถ้าพื้นที่ภายนอกแออัด ให้ปล่อยอากาศเสียขึ้นไปในระดับที่สูงกว่า 3 เมตร เพื่อให้ละอองฝอยเจือจางในอากาศก่อนตกสู่พื้น หากจะติดตั้งเครื่องกรองอากาศหรือกำจัดเชื้อในอากาศในโซนท้ายลม ต้องมีงบประมาณที่มากพอและต้องมีการบำรุงรักษาที่ดีเพื่อป้องกันแผ่นกรองตันในระยะเวลาอันสั้น 2. จุดคัดกรองผู้ป่วย - ควรให้บริการแบบ One Stop Service ระยะห่างจากจุดคัดกรองถึงปากทางเข้าอาคารบริการปกติไม่น้อยกว่า 5 - 10 เมตร - ใช้การระบายอากาศโดยวิธีธรรมชาติ ตำแหน่งที่ตั้งของจุดคัดกรองให้อยู่ทิศใต้ลม ธงเป็นเครื่องมือที่เรียบง่ายในการใช้สังเกตทิศทางลม กรณีลมพัดหวนไปมา ให้ดูทิศทางที่ลมพัดไปในสัดส่วนมากที่สุด หากจุดคัดกรองต้องตั้งอยู่ทิศเหนือลม ให้ติดตั้งฉากบังลม เพื่อบังคับให้ลมเปลี่ยนทิศทาง 3....
สถานการณ์สร้างการเปลี่ยนแปลง การใช้วิกฤตเป็นโอกาส เคล็ดลับคุณภาพ วันนี้ เสนอ ประเด็น "ประสบการณ์การดูแลผู้ป่วย COVID-19 และการบริหารจัดการในระดับ รพช." เป็นประสบการณ์จากท่าน ผอ.รพ.ชุมชน ที่ผจญสถานการณ์ COVID-19 คนละรูปแบบ โรงพยาบาลสันกำแพง รพ.ที่ถูกเลือกให้เป็นโรงพยาบาลโควิดของจังหวัดเชียงใหม่ และ โรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา รพ.ที่ต้องดูแลผู้ป่วยโควิด 6 รายแบบกะทันหันในขณะที่ต้องดูแลคนไข้โรคอื่นด้วย ประสบการณ์ของรพ.สันกำแพง นพ.ณรงค์เดช พิพัฒน์ธนวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสันกำแพง ที่เริ่มจาก คำถามที่ว่า ทำไม่ต้องเป็นเรา? ทำไม รพ.สันกำแพงต้องเป็น Cohort hospital เป็นคำถามที่เกิดขึ้นในใจของทุกคนในรพ. ตั้งแต่ผู้อำนวยการ รพ. บุคลากรไปจนถึงชุมชน แต่พอคำตอบที่ได้รับ จากจังหวัด ด้วยเหตุผลที่ทุกคน ยอมรับว่า สันกำแพงมีความเหมาะสมจาก 1) ชัยภูมิที่ตั้งเหมาะสม ไม่ไกลจากรพ. นครพิงพ์และมหาราชนครเชียงใหม่ ที่จะส่งต่อผู้ป่วยมาดูแล 2.) เป็นรพ.ที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง เพราะจากบทพิสูจน์ในอดีต รพ.เคยถูกมอบหมายให้ดูแลรักษาคนไข้มะเร็งเป็นที่ให้ยาเคมีบำบัดสามารถปรับกระบวนงานและบริหารบุคลากรจนสำเร็จ และ 3. ผู้บริหารมีเหตุผลในการคัดเลือกที่มาจากนโยบายของประเทศ ทั้ง 3 ข้อนี้ทำให้ รพ.สันกำแพงพร้อมใจร่วมด้วยช่วยกัน ประเด็นสำคัญที่ผอ.รพ.สันกำแพง ดำเนินการ ในการตั้ง...
เคล็ดลับคุณภาพ ชวนเรียนรู้เรื่อง หน้ากากอนามัย คำแนะนำในการใช้หน้ากากอนามัยประเภทต่างๆ อ้างอิงจาก นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรคในการสื่อสารทาง Facebook Live ของ สรพ. เมื่อ 11 มีนาคม 2563 มีสาระสำคัญ ดังนี้ 👨🏿‍🔬 บุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วย COVID-19 ต้องใช้หน้ากาก N-95 🦸‍♀️บุคลากรที่ดูแลผู้ป่วยทั่วไปให้ใส่ “หน้ากากอนามัย” หรือ Surgical mask 🤱 ประชาชนทั่วไปใช้ แนะนำให้ใช้ “หน้ากากผ้า” กรณีต้องเข้าไปสถานที่แออัด 🤱 ผู้ป่วยควรใส่ “หน้ากากอนามัย” เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ ควรเลือกหน้ากากอนามัยที่กระชับใบหน้า   ภาพโดย Alexas_Fotos จาก Pixabay
- Advertisement -

MOST POPULAR

HOT NEWS