Co-Production for Healthy Lifestyle

0
13
Co-Production for Healthy Lifestyle

อาจารย์เรวดี ศิรินคร (ผู้เยี่ยมสำรวจ สรพ.) การเยี่ยมโรงพยาบาล พบว่าปัญหาส่วนใหญ่  NCD (Non-Communicable Diseases) หมายถึง กลุ่มโรคที่ไม่ได้มีสาเหตุจากการติดเชื้อ หรือจากเชื้อโรค ไม่ติดต่อผ่านการสัมผัส คลุกคลี หรือผ่านตัวนำโรค (พาหะ) แต่เป็นโรคที่เกี่ยวกับนิสัยหรือพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างไม่ระมัดระวัง เมื่อสะสมนานวันเข้าส่งผลต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังแบบไม่รู้ตัวขึ้นเยอะมาก และเมื่อไปเยี่ยมก็จะพบว่าทีมงาน ในคลินิก NCD มีความท้อ เพราะผลลัพธ์ไม่ดี รวมถึงภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ก็มีประสบการณ์การไปเยี่ยมโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกระนวน ซึ่งพบว่าผลลัพธ์ดี เป็นโอกาสดี เพราะตอนนี้ไปที่ไหนก็พูดเรื่องนี้ รวมถึงมีการนับ carb

พว.จูณีย์ คงทรัพย์ (โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกระนวน) หลายๆ โรงพยาบาลอาจทำได้ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตามถือโอกาสเป็นการและกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยจากปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCD เราเองเคยรู้สึกท้อ แต่ก็คิดได้ว่าหากเราท้อคนไข้จะพึ่งใคร กระนวนเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดขอนแก่น โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกระนวนเป็น รพ. ชุมชน ขนาด M1 ประชากรจำนวน เก้าหมืื่น คน เป็น DM 6,000 กว่าคน และ HT กว่า 9,000 คน
ตัวอำเภอห่างจากตัวจังหวัด 69 กม. จากค่าเฉลี่ยระดับประเทศ ในคนไข้ DM ที่สามารถ control ได้ดี ที่ทำได้กว่า 31% แต่อำเภอกระนวนทำได้ที่ 42% โรคเบาหวานเป็นโรคที่เกิดจากการทานอาหารเกินกว่าจำนวนที่ร่างกายต้องการ โดยอิสานจะมีการทานข้าวเหนียวจากกระติบ ซึ่งบรรจุข้าวจำนวนมาก ซึ่งสามาารถทานได้ไม่จำกัด รวมถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจ ทำให้ลักษณะอาหารที่เป็นปลาป่น ที่มีโปรตีนน้อย และต้องทานร่วมกับข้าว จำนวนมาก
เพื่อให้มีพลังงาน ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคอ้วน และน้ำตาลในกระแสเลือดเพิ่มพบว่าเบาหวานกว่า 50% ของอำเภอกระนวนไม่ได้เกิดจากกรรมพันธุ์ และภาระงานของหมอ 1 คน ต่อคนไข้ 100 คน ทำให้ไม่มีเวลามาคัดกรองและวิเคราะห์สาเหตุ จึงใช้วิธีการปรับยา เป็นส่วนมาก รวมถึงคนไข้ไม่มีความรู้ และครอบครัวเองก็มีส่วน โดยส่วนมาก
ลูกเหลานจะซื้ออาหาร ผลไม้ นมต่างๆ มาไว้ให้ โดยถือว่าเป็นการดูแล

โดยโรงพยาบาลกระนวนเริ่มตั้งแต่ปี 2565 โดยมีการอบรม โดยครั้งแรกแรกใช้ชื่อโครงการเบาหวานสงบ พบว่าไม่มีผู้เข้าร่วม จึงเปลี่ยนชื่อเป็นเบาหวานหายได้ จึงมีผู้สนใจยอมร่วมโครงการ รพสต. ทุกแห่ง และ อสม. โดยใช้หลัก 3 ส 3 อ 1 น คือ สวดมนต์ สมาธิ สนธนาธรรม อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ และนาฬิกาชีวิต ซึ่งเป็นการนำหลักการทำงานของอวัยวะในร่างกายมาบูรณาการร่วมกันกับหลักการทางศาสนา โดยตั้งเป้าเบาหวานชนิดที่ 2 ลดน้ำหนักลงได้ 15% ของน้ำหนักตัว เป็นอบรมเชิงปฏิบัติการ 1 วัน สำหรับคนไข้เพื่อเป็นการ motivate สร้างแรงบันดาลใจให้ปรับเปลี่ยน เช่น แม่เสงี่ยม มีแม่ที่ป่วย มีลูกที่เรียน เป็นคนสำคัญในครอบครัว หากเราป่วยครอบครัวจะเป็นอย่างไร  และมีการติดตามทุกสามเดือนให้กลับมาตรวจซ้ำ เพื่อทบทวนไม่ให้หลงลืม และนำคนที่สามารถทำได้มาสร้าง แรงบันดาลใจ รวมถึงให้ความรู้เรื่องเบาหวานและการจัดการภาวะแทรกซ้อน รวมถึงมีการติดตามประเมินว่าใครสามารถจะเป็นวิทยากรได้บ้าง

โดยมีฐานที่ 1 คือ เรื่อง carbohydrate โดยใช้ความรู้จากแผ่นพับ มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นต้นแบบ เพื่อให้คำนวน carb ได้ ปัจจุบันมี application นับ carb สามารถเข้าไปดูได้ ฐานที่ 2 IF ฐานที่ 3 โปรตีน ฐานที่ 4 ออกกำลังกายฐานที่ 5 สวดมนต์ และมีแบบบันทึกให้ลงบันทึก รวมถึงมีการแจกเครื่องเจาะน้ำตาล และเอาคืนใน 6 เดือน ตั้งกลุ่มไลน์ส่งผลตรวจน้ำตาล มีการตั้งแพทย์ 1 คนดูแลคนไข้ในกลุ่ม รวมถึงมีการสอบถามตั้งเป้าหมายและนัดติดตามทุก 1 เดือน ซึ่งในระหว่างการเข้าโครงการนี้ ใครทำได้ดี จะมีการมาบอกเล่า แชร์ประสบการณ์

ผลลัพธ์ สามารถลดยาได้ 30 คน หยุดยาได้ 15 คน หลังจากทำกลุ่มที่ 1 มีการวิเคราะห์ว่า จำนวนผู้ร่วมอบรมน้อยไปหรือไม่ จึงมีการจัดอบรมรุ่นที่ 2 กว่า 200 คน โดยรุุ่นที่ 2 มีการแบ่งกลุ่มตาม 12 รพสต.ใน 3 เดือนสุดท้ายของโครงการ ทีมวิทยากร รพสต. สามารถลดยาได้ และมีบางรายสามาถหยุดยาได้รวมถึงสามารถลด และหยุดยาความดันได้ด้วย ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้กับทีม จากการถอดบทเรียน คือ ความรู้ต้องเข้าใจง่าย ให้ลงมือทำ เรียนรู้ มีพี่เลี้ยงสนับสนุน มีระบบการติดตามซักถาม แลกเปลี่ยน ใช้ MI ทำให้ก้าวผ่านความลังเล สิ่งหนึ่งที่ได้จากโครงการ
คือ ตัวเองต้องเป็นคนต้นแบบเพราะต้องไปสอนคนไข้ จึงได้เข้าร่วมโครงการและลดน้ำหนักไปกับคนไข้เช่นกันซึ่งหลังจากโครงการนี้เรามีบุคคลต้นแบบที่มีความมั่นใจ และสามารถสื่อสารบอกต่อไปยังคนอื่นๆ ได้

นางเสงี่ยม มุงคุณคำซาว เป็น อสม. จากที่เคยน้ำหนัก 108 กิโล ซึ่งมีปัญหาในการใช้ชีวิตอย่างมาก เมื่อร่วมโครงการ ได้รับความรู้คือให้ทานข้าวน้อย ให้ทานโปรตีนเยอะ ทำให้น้ำหนักลดลง และมีความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน คนในชุมชนเห็นความเปลี่ยนแปลง และได้ขอเข้าร่วมโครงการ ทำให้คนในชุมชนน้ำหนักลดลง รวมถึงตัวเองก็ได้ดูแลมารดา ซึ่งสามารถช่วยมารดา จาก bed rest จนสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ และจากการเข้าร่วมทำสมาธิ สวดมนต์ เป็นคนใจเย็น ลดปัญหาครอบครัวได้ด้วย

การทำ DM revision ต้องใช้ชุมชนมาร่วมด้วยเหมือน chronic care model แม้กระทั่งการออกแบบก็ต้องร่วมกับชุมชน บทบาทเราคือ ต้องวางแผน ออกแบบ ติดต่อประสานงาน มีความสามารถในการสอน สนับสนุนการจัดการตัวเองของผู้ป่วย มีการกำกับติดตาม การดำเนินงาน การวิเคราะห์ข้อมูล

Co production for healthy life style จะเห็นบทบาทพยาบาลที่สำคัญ จากที่ฟังจะเห็นได้ว่า ประชาชนมีความสับสนในภาษาที่ใช้สื่อสาร จากเบาหวานระยะสงบ มาเป็นเบาหวานหายได้ จากที่ฟังโรคเบาหวานหายได้ และแนวปฏิบัติ คือ 1.ต้องลดแป้งให้ได้ 2.intermittent fasting (IF) อดอาหารเป็นช่วง 3.การออกกำลังกาย รวมถึงการทำงาน 4.ไม่เครียด 5.นอนหลับให้เพียงพอ ซึ่งเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ป่วย คือ สมัครใจ มุ่งปรับพฤติกรรมให้เข้าสู่ระยะสงบ เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 อายุมากกว่า 18 ปี เป็นเบาหวานมาไม่เกิน 5 ปี ไม่ได้ใช้ insulin ไม่มีประวัติโรคหัวใจรุนแรง   HbA1C <9 และ eGFR >45 ml/min/

ผู้ถอดบทเรียน นายยอด สุนนทราช พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา

ครีเอทีฟคอมมอนส์
งานนี้ใช้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ แบบแสดงที่มาไม่ใช้เพื่อการค้า ไม่คัดแปลง

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here