วันเสาร์, พฤษภาคม 17, 2025
หมอพร้อม! กับการพัฒนา Digital Transformation
หมอพร้อม! กับการพัฒนา Digital Transformation หมอพร้อมเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาและเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของประชาชน ที่นำไปสู่ Digital Health Platform อย่างเต็มรูปแบบ ระบบ "หมอพร้อม" เริ่มต้นพัฒนาเมื่อเดือนมกราคม 2564 เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการฉีดวัคซีนเข็มแรก โดยได้รับการสนับสนุนการพัฒนาระบบจากทั้งภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาระบบ เชื่อมโยงข้อมูลพื้นฐานของประชาชน การพิจารณาความปลอดภัยของข้อมูล และส่วนที่เกี่ยวข้องอื่นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนมีข้อมูลการฉีดวัคซีนของตนเอง รวมถึงมีระบบที่ช่วยลดภาระในการบันทึกข้อมูลการฉีดวัคซีนของบุคลากรทางการแพทย์โดยการเชื่อมโยงกับระบบสารสนเทศของของโรงพยาบาลต่างๆ (Hospital Information System: HIS) และเพื่อให้มีระบบกำกับติดตามที่กระทรวงสาธารณสุขสามารถนำข้อมูลไปเพื่อวิเคราะห์และพัฒนาระบบต่อไป ทำไม? ต้อง "หมอพร้อม"หมอพร้อมพัฒนามาจาก Line Official Account "MOPH Connect" มีผู้ลงทะเบียนใช้งานประมาณ 300,000 คน ต่อมากระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับบริษัท LINE คอร์เปอเรชั่น ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกสิกรไทยในการร่วมกันวางแผนทางการตลาดโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ นำสู่การเสนอชื่อระบบเพื่อทดแทน MOPH Connect โดยมติที่ประชุมเห็นชอบให้ใช้ชื่อ "หมอพร้อม" กรอบการพัฒนาระบบหมอพร้อม ระบบหมอพร้อมพัฒนาระบบให้สามารถส่งข้อมูลที่มีการบันทึกจากสถานพยาบาลเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลกลาง ซึ่งข้อมูลที่อยู่ฐานข้อมูลถูกนำไปประมวลเพื่อแสดงผลในรูปแบบ Dash Board และการทำ Data Analytic รวมถึงเชื่อมต่อข้อมูลกับ "หมอพร้อม Line Official Account (Line OA)" และ "แอปพลิเคชัน...
Metaverse in Healthcare
Metaverse in Healthcare ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ ใน Metaverse Metaverse เป็นคำที่มีมานานตั้งแต่ ค.ศ. 1992 เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น เมื่อ Mark Elliot Zuckerberg ได้เปลี่ยนชื่อจาก Facebook เป็น Metaverse ตามการปรับเปลี่ยน culture บางอย่างขององค์กร Metaverse เป็น social media รูปแบบหนึ่ง ที่ทำให้คนได้เข้าใกล้กันมากขึ้น ด้วยแนวคิด “The Ultimate Dream: The defining quality of the metaverse will be a feeling of presence like you are right there with another person or in another place. Feeling truly present with another person is...
เมื่อกำลังคนสุขภาพกำลังหมดไฟ” How to Reboost People Management
เมื่อกำลังคนสุขภาพกำลังหมดไฟ” How to Reboost People Management “การจัดการคน” เพื่อแก้ปัญหา และรักษากำลังคนสุขภาพ เพื่อการคงอยู่พร้อมรับความท้าทายใหม่ เป็นบททดสอบความแข็งแกร่งขององค์กร “กำลังใจในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่จะเพิ่มพลัง เพิ่มความเข้มแข็งให้กับกำลังคนสุขภาพที่กำลังหมดไฟ” ในสภาวการณ์ปัจจุบันหลายองค์กรทั่วโลกกำลังเผชิญกับ “อภิมหาการลาออกครั้งใหญ่” The Great Resignation เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ปัญหาทางการเมือง หรือปัญหาการสู้รบ ทั้งหมดเปรียบเหมือน Perfect Storm ทำให้ชีวิตของประชาชนจำนวนมากเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะประเทศไทยพนักงานองค์กรเอกชนหลายแห่งมีการลาออกโดยไม่สมัครใจ เช่น ธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจการบิน ธุรกิจด้านธนาคาร ธุรกิจด้านสื่อสารมวลชน อีกทั้งบุคลากรวิชาชีพขาดแคลน ขาดความมั่นคงในการทำงานเสี่ยงต่อการติดเชื้อ พบว่าหากเปรียบเทียบภาวะต้มยำกุ้ง ในปี พ.ศ. 2540 ที่เศรษฐกิจตกต่ำ กับสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า ในอดีต ถึงแม้จะมีประชาชนตกงานถึง 1.6 ล้านคน แต่สามารถกลับมามีงานทำใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ปัจจุบันหลายธุรกิจปิดตัว ล้มละลาย ทำให้เกิดผลกระทบเชิงลบเป็นวงกว้างทั้งเรื่องการไม่สามารถกลับเข้าทำงานได้อีก   แม้ว่าคนที่มีงานทำและองค์กรธุรกิจที่ดำเนินต่อไปได้ยังคงต้องปรับตัว ปรับกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น หลายองค์กรกำหนดสัดส่วนบุคลากรปฏิบัติงานที่ทำงาน และปฏิบัติงานที่บ้าน (Work at Home)ให้เหมาะสม มีการประชุม การสัมมนาผ่านระบบออนไลน์ การเว้นระยะห่าง...
A Health Systems Resilience during COVID-19 Pandemic
A Health Systems Resilience during COVID-19 Pandemic โควิดเป็นห้องเรียน ให้ทุกสถานพยาบาลมีเรื่องราว บทเรียน เพื่อเป็นประสบการณ์ต่อไป ซึ่งสามารถนำไปใช้        ในการดูแลผู้มารับบริการ  สามารถปรับระบบการดูแลที่ไม่เคยทำมาก่อน พลิกระบบสุขภาพให้กลับไปสู่ประชาชน เป็นศูนย์กลาง โดยใช้ดิจิตัลเทคโนโลยี  ภายใต้มาตรฐานต่างๆ ที่กำหนดไว้ มีการบริหารความเสี่ยง และจัดการอย่างเหมาะสมโดยมีกลไกกำกับดูแลทางด้านการเงิน แม้ว่าการพัฒนาจะเป็นแบบ Action แล้ว Study สถานพยาบาลค่อยๆ ถอดบทเรียน และทบทวน ว่า New normal เรื่องใดจะเป็น Next normal ประเด็นที่คิดว่าทำไม่ได้แล้วทำได้ นำมาสรุปเพื่อวางแผนออกแบบระบบการดูแลแบบใหม่กว่า พลิกฟื้น คืนกลับเป็น Now Normal เพื่อใช้ในการให้บริการต่อไป การฟื้นคืนการให้บริการของสถานพยาบาลหลังสถานการณ์ภัยพิบัติ ต้องทบทวนว่า ปัจจัยใดที่ทำให้สามารถฟื้นตัวได้ การจะปรับตัวเองไปสู่การฟื้นฟู ผู้นำองค์กรมีส่วนกำหนดบทบาทของตนเองและสถานพยาบาล ว่าจะดำเนินการไปอย่างไร มีความสามารถในการฟื้นตัว และจะพัฒนายกระดับตนเองอย่างไร ตามหลักการและมาตรฐานที่กำหนด สรพ. เชื่อมโยงหลักวิชาการ กำหนดข้อมาตรฐาน ตามกระบวนการดูแล สร้างการเรียนรู้กับสถานพยาบาล สะท้อนผลลัพธ์การดูแลด้วยประสบการณ์ผู้ป่วย  สปสช. ผลักดันมาตรฐาน การปฏิบัติ ให้เกิดความยั่งยืนด้วยกลไกการเบิกจ่าย...
A Step for Scaling up and Resilience Organization with Spiritual ผู้ถอดบทเรียน สุทธิพงศ์ คงชุม นักวิชาการคอมพิวเตอร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
บทส่งท้ายบรรณาธิการ Quality Care 22nd HA National Forum HA National Forum คือเวทีแห่งการเรียนรู้ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อให้ชาวระบบสุขภาพได้นำ ไปปรับใช้เพื่อพัฒนาการดูแลผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น ในภาวะท้าทายที่เต็มไปด้วยอุปสรรค เรายังเห็นว่าผู้เข้าร่วมประชุมทั้งที่เดินทางมาร่วมประชุมที่ เมืองทองธานี และทาง online ยังคงให้ความสนใจอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ยิ่งย้ำเตือนถึงความ resilience ของชาวระบบสุขภาพอย่างชัดเจน อุปสรรคและปัญหา ทำให้เราได้ค้นพบว่า ศักยภาพที่เราสามารถขยายส่วน (scale up) ได้เกินกว่าที่เราคิด และ อีกทั้งยังได้เห็นความร่วมมือร่วมใจกันของคนในองค์กรและภาครัฐทุกส่วนรวมกับภาคเอกชนเข้ามาผนึกกำลัง ด้วยความคาดหวังที่จะเห็นความปลอดภัยในระบบสุขภาพและขยายไปให้ถึงสุขภาวะของประชาชน บรรยากาศแห่งการเรียนรู้นี้ คงไม่จบเพียงในงานประชุมเท่านั้น เพราะการทำงานทุกวันคือการเรียนรู้ ทีมงาน Quality Care จึงขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ทั้งจากความสำเร็จ และความล้มเหลว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่มี resilience คือองค์กรแข็งแกร่งด้วยพลังแห่งการเรียนรู้ และเติมเต็มกำลังใจให้แก่กันและกันอยู่เสมอ ในอีก 1 ปี ต่อจากนี้ เชื่อว่าทุกท่านจะกลับมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ มาผนึกกำลังกันอีกครั้ง ภายใต้แนวคิด “Synergy for Patient Safety and Wellbeing”  อันเป็นการย้ำถึงการร่วมมือ  ร่วมเป้าหมาย และร่วมพลัง เพื่อการพัฒนาอย่างมีคุณค่า...
Take Home Message : 22nd HA National Forum สารจากผู้อำนวยการ สรพ. ทั้ง สามยุค (วางรากฐาน สานต่อ ก่อการไกล) ในการสร้างพลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และการสาธารณสุข  ในการทำคุณภาพและงานประจำทั้งในสถานการณ์ปกติ และ สถานการณ์ภัยพิบัติการระบาดของโรคอุบัติใหม่ COVID-19 และ ภัยทางการเมือง ภายใต้ทรัพยากรอย่างจำกัด นพ. อนุวัฒน์ ศุภชุติกุล ได้ quote คำพูดของอาจารย์โกมาตร  HA สอนให้เราทำงานอย่างมีหลัก ส่วน SHA สอนให้เรารักงานที่เราทำ สองอย่างนี้เป็นของคู่กัน เพราะฉะนั้นถ้าเราอยู่ในภาวะที่มันค่อนข้างจะมีปัญหารุมเร้าต่างๆ เข้ามาถ้าเราสามารถที่จะฝึกใจหรือทำใจให้รักในงานที่เราทำได้  และถ้าเรารักในงานที่เราทำแล้ว เชื่อว่ามันจะผ่านไปได้อย่างราบรื่น และ จะไม่ suffer หรือถ้า suffer ก็น้อย ถ้าตัวเราเข้าไปหาทุกข์ไปรับความทุกข์เกิดขึ้น แต่ เราจะใช้ปัญญาของเราค่อยๆ คลี่คลายความยากลำบากที่เข้ามาเผชิญต่อหน้าเราให้มันลุล่วงไปได้ โดยที่ไม่ยากเกินไป และเราก็จะเหนี่ยวนำให้เพื่อนๆ ให้มีพลังผ่านความยากลำบากไปได้  ซึ่งสอดคล้องกับ อ.ประเวศ ……ได้พูดถึงเรื่องของการใช้พลังงานภายใน หรือ inner power ในการจัดการเรื่องต่างๆ...
MOU ระหว่าง Planetree International และ สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.) แพทย์หญิงปิยวรรณ ลิ้มปัญญาเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล และ Dr. Susan B. Frampton, President, Planetree international, USA ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือทางด้านวิชาการ ในการส่งเสริมและกระตุ้นให้สถานพยาบาลนำแนวคิด “People-centered care” และแนวคิดจิตวิญญาณในการทำงาน เห็นคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการดูแลรักษา เน้นคนทำงาน และเน้นสิ่งแวดล้อมในการเยียวยา ซึ่งสอดรับกับมาตรฐานสากล ในการพัฒนาและรับรองสถานพยาบาล รวมทั้งสนับสนุนองค์ความรู้ ในการดูแลผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางอย่างเป็นระบบในระดับสากล
มองระบบสุขภาพ ว่าด้วย การถ่ายโอน รพสต. สู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การถ่ายโอน รพ.สต. สู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเส้นทางของการพัฒนาที่พึงมี เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพ และมีสุขภาวะที่ดีขึ้น โดยในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2565 รพ.สต. ประมาณ 3,000 แห่งจะต้องถ่ายโอนสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นนี้ เป็นความท้าทายในการรวมพลังและเชื่อมโยงด้วยแนวคิด Co-Creation นําไปสู่ New Design for New Partnership ภายใต้เงื่อนไขด้านการจัดการวัฒนธรรมและความห่วงกังวลของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ระดับผู้ปฏิบัติงานทั้งใน รพ.สต. และองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น ความกังวลในการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร สายบังคับบัญชา การติดต่อประสานงานระหว่างหน่วยงาน หรือความห่วงกังวลในด้านวิชาการ จนไปถึงความห่วงกังวลในระบบงานเชื่อมโยงต่างๆ อาทิเช่น ระบบเครือข่ายการรักษาพยาบาล กระบวนการในการจัดการภาวะวิกฤติ ความเชื่อมโยงด้านวิชาการ และการปรับบทบาทของกระทรวงสาธารณสุข ด้วยบริบทที่หลากหลายของแต่ละพื้นที่ การนำแนวคิด Chaordic management plus ที่เริ่มจากการสร้างเป้าหมายร่วมกันในแต่ละภาคส่วน ทั้งความท้าทาย หรือสิ่งที่ต้องจัดการ ต้องก้าวข้าม โดยที่ความคาดหวังของภาคส่วนต่างๆ ไม่ตกหล่นหายไปในการบรรลุเป้าหมายร่วม การใช้หลักการร่วม การมีส่วนร่วมในการออกแบบกระบวนการ ดำเนินการ ติดตาม/สะท้อน เรียนรู้ เพื่อนำกลับมาออกแบบระบบใหม่ร่วมกัน (DALI) ประกอบกับการนำแนวคิด...
Developmental Evaluation (DE), REAM, and Clinical Audit “Developmental Evaluation : DE เป็นเครื่องมือที่เอื้อต่อการเรียนรู้ร่วมกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อค้นหาหนทางสู่การเปลี่ยนแปลงของผู้เกี่ยวข้อง เป็นการประเมินเพื่อใช้ประโยชน์โดยนำผลไปปรับปรุงผลงานของตัวเอง จึงเป็นมุมที่เกิดการเรียนรู้ที่กว้างขวาง” Developmental Evaluation คือ เครื่องมือที่ใช้ทำความเข้าใจ รวมถึงใช้ในการตีความในสถานการณ์ที่ซับซ้อน (complex situation) และ DE ที่ดี ต้องให้ real-time feedback เพื่อนำไปปรับปรุงได้ทันเวลา อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือสร้าง double-loop learning (การเรียนรู้เพื่อปรับปรุงนโยบายองค์กร), triple loop learning (การเรียนรู้เพื่อปรับเปลี่ยนทิศทางองค์กร) ให้แก่กลุ่มคนที่มีความแตกต่างกันในหน้าที่รับผิดชอบ มุมมอง ความเชื่อ ประสบการณ์ แต่มีเป้าหมายเพื่อความสำเร็จร่วมกัน Developmental Evaluation ประกอบไปด้วย 5 ปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ เป้าหมายร่วมที่ทรงพลัง (common purpose) ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในเครื่องมือนี้ ในการเริ่มต้นเกิดจากการประชุมปรึกษาร่วมกันในการกำหนดเป้าหมายขององค์กรที่สร้างคุณค่าที่แท้จริงร่วมกัน ไม่ใช่เพียงแต่การสร้างผลงานให้สำเร็จ ข้อมูลหรือผลประเมินที่ตรงเป้าหมาย และแม่นยำ โดยกำหนดข้อมูลที่ต้องการ รวมถึงขั้นตอน และวิธีการเก็บข้อมูล จนถึงการกำหนดการวิธีวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholders)...
- Advertisement -

MOST POPULAR

HOT NEWS