วันอาทิตย์, กันยายน 14, 2025
แนวทางการทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมในสถานการณ์ COVID-19
เชื้อ COVID 19 สามารถคงอยู่ในแวดล้อมต่างๆ ได้นานหากไม่มีการทำความสะอาด จึงจำเป็นต้องรู้จักวิธีลดการปนเปื้อนเชื้อและการใช้สารทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อให้เหมาะสมและ contact timeตามชนิดของน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ดังนี้ สารทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อ 1.ใช้แอลกอฮอล์70-90% (ประมาณ 30 วินาที) สำหรับพื้นผิวของวัตถุต่างๆ ที่เป็นโลหะ 2.ใช้ Hydrogen peroxide ในความเข้มข้นต่างๆ ใช้สำหรับทำความสะอาดพื้นผิวได้ ดังนี้ ใช้น้ำยา Hydrogen peroxide 0.05% (ประมาณ 1 นาที) สำหรับพื้นผิวทั่วไป และ ใช้น้ำยา Hydrogen peroxide ความเข้มข้น 0.5% สำหรับทำความสะอาดพื้นที่ปนเปื้อนน้ำมูก/น้ำลาย/เสมหะ/อุจจาระ/ห้องน้ำ โถส้วม ราดทิ้งไว้อย่างน้อย 15-30 นาที 3. สารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรต์ (NA Hypochlorilt) ความเข้มข้น 0.01% ฆ่าเชื้อได้ในเวลาประมาณ 1 นาทีและในความเข้มข้นต่างๆ สามารถใช้สำหรับทำความสะอาดพื้นผิวได้ ดังนี้ - สารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรต์ (0.05%) สำหรับถูพื้นห้อง - สารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรต์ (0.5%) สำหรับทำความสะอาดพื้นที่ปนเปื้อนสารคัดหลั่งหรือในห้องน้ำ โดยราดทิ้งไว้อย่างน้อย 15-30 นาที 4. น้ำยา Providine...
เคล็ดลับงานคุณภาพวันนี้ ขอเชิญมาร่วมเรียนรู้ เรื่อง " บทบาท ICN ในสถานการณ์ COVID-19 ประสบการณ์จากสถาบันบำราศนราดูร " บทบาทหน้าที่ ICN โดยทั่วไป ได้แก่ เฝ้าระวังการติดเชื้อผู้ป่วยทุกรายในโรงพยาบาล เฝ้าระวังการติดเชื้อเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ดำเนินการและกำกับดูแลระบบการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อในรพ. สอบสวนและควบคุมการระบาดของการติดเชื้อ/โรคอุบัติใหม่ อุบัติซ้ำ นอกจากนี้ในสถานการณ์การแพร่ระบาด ICN ปรับมาตรการในการดูแลบุคลากรและประคับประคองจิตใจ เพิ่มเติมดังนี้ - มีการปรับนโยบายการเฝ้าระวังในเชิงรุก กำหนดมาตรการดูแลสุขภาพ สวัสดิภาพความปลอดภัยของบุคลากรทั้งร่างกาย และจิตใจ เอาใจใส่ให้กำลังใจบุคลากรและครอบครัว - สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personnel protective equipment) อย่างเพียงพอต่อการใช้งาน เหมาะสมกับลักษณะของกิจกรรม พร้อมการฝึกอบรมให้เกิดความมั่นใจอย่างสม่ำเสมอ - ติดตามการปฏิบัติงานของบุคลากรเพื่อป้องกันการติดเชื้ออย่างเข้มงวด ใช้ระบบ Buddy - มี safety officer ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเชี่ยวชาญในระบบป้องกันการติดเชื้อ สามารถให้คำแนะนำ จัดการสถานการณ์ไม่ปกติ และ ช่วย Buddy ในการกำกับการปฏิบัติ - ให้ความรู้ ฝึกทักษะแก่บุคลากรอย่างครอบคลุมที่เกี่ยวกับการป้องกัน การเฝ้าระวัง การทำความสะอาด ช่องทางการแพร่กระจายเชื้อเพิ่มเติม เพื่อเน้นย้ำในการปฏิบัติตามหลักการ ลดความตื่นตระหนก เกิดความเข้าใจ - รายงานความคืบหน้าของสถานการณ์อยู่เสมอ รวมถึงทำให้ครอบครัวของบุคลากรเกิดความเชื่อมั่นใน ทีมงานที่ดูแลความปลอดภัยแก่บุคลากร - ออกแบบการจัดอัตรากำลังที่เพียงพอ ลดความเหนื่อยล้า...
การดูแลผู้ป่วย COVID-19
  วันนี้เคล็ดลับงานคุณภาพ มีเรื่องการดูแลผู้ป่วย COVID-19 ที่มีอาการไม่มากที่บ้านของตนเอง  มาให้เรียนรู้กันครับ ถ้าการระบาดของ COVID-19 ขยายตัวอย่างรวดเร็ว คงมีสักวันหนึ่งที่เตียงและบุคลากรทางการแพทย์จะมีไม่เพียงพอที่จะดูแลผู้ป่วย COVID-19 ทุกคนที่โรงพยาบาล และจะทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการไม่มากจำเป็นต้องได้การดูแลที่บ้านของตนเอง องค์การอนามัยโลกได้ออกคำแนะนำเมื่อ 17 มีนาคม 2563 เพื่อให้การเกิดการจัดการที่เป็นระบบในการดูแลผู้ป่วย COVID-19 ที่บ้านของตนเอง สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้ 1. การเตรียมบ้านผู้ป่วย ยึดหลัก isolation with good ventilation คือ ผู้ป่วยควรอยู่ในห้องที่แยกจากคนอื่นในบ้าน มีอากาศถ่ายเทดี จำกัดพื้นที่ที่ต้องใช้สอยร่วมกับคนอื่น และแยกสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ เป็นส่วนตัว ไม่ใช้จาน ช้อน แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า ปะปนกับคนอื่น 2. การเตรียมความพร้อมของผู้ป่วยและผู้ที่อยู่ในบ้าน เมื่อกลับถึงบ้าน ทั้งผู้ป่วยและผู้ที่อยู่ในบ้านต้องใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์เพื่อป้องกันสารคัดหลั่งจากตัวผู้ป่วย มีการล้างมือเมื่อมีการเตรียมอาหาร รับประทานอาหาร และเข้าส้วม ไม่นำมือมาจับบริเวณใบหน้าโดยไม่ล้างมือก่อน และมีความรู้ในการใช้น้ำยาฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง 3. การทำความสะอาด ของใช้ผู้ป่วยล้างด้วยสบู่และน้ำ พื้นและผิวเฟอร์นิเจอร์ในห้องที่ผู้ป่วยพักมีการทำความสะอาดบ่อย ๆ ห้องน้ำที่ผู้ป่วยใช้มีการทำความสะอาดอย่างน้อยวันละครั้งด้วยสบู่หรือน้ำยาซักฟอก แล้วตามด้วย 0.5% sodium hypochlorite เสื้อผ้าผู้ป่วย ถ้าเป็นไปได้ควรซักในน้ำร้อน 60 – 90...
            วันนี้เคล็ดลับงานคุณภาพ ชวนมาเรียนรู้ และเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล เพื่อรับมือ COVID-19 การเตรียมความพร้อมโรงพยาบาล เพื่อรับมือกับ COVID-19 พญ.นฤมล สวรรค์ปัญญาเลิศ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากกรมการแพทย์ ได้แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการเตรียมความพร้อมโรงพยาบาล เพื่อรับมือกับ COVID-19 ใน Facebook Live ของ สรพ. เมื่อ 13 มีนาคม 2563 มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี 1. จัดตั้ง Acute respiratory Infection (ARI) Clinic สำหรับการตรวจผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ 2. บูรณาการความพร้อมของเตียงในทุกภาคส่วน เชื่อมโยงงานเพื่อรองรับผู้ป่วย 3. เพิ่มปริมาณเตียงรองรับผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ โดยจัดเป็น Cohort Ward 4. จัดทำแนวทางการวินิจฉัยและรักษาร่วม 5. สำรวจและสำรอง PPE 6. เตรียมจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม กรณีมีผู้ป่วยจำนวนมากการจัดการผู้ป่วย PUI1. ให้ผู้ป่วยอยู่ในบริเวณที่จัดไว้ สวมหน้ากากอนามัย 2. หากเป็นผู้ป่วยมีข้อบ่งชี้เป็นผู้ป่วยใน ให้อยู่ห้อง isolation room/ single room ไม่จำเป็นต้องเป็น negative pressure room 3. บุคลากรสวม PPE ตามความเหมาะสม 4. หลีกเลี่ยงหัตถการประเภทที่ทำให้เกิด aerosol เช่น...
เคล็ดลับงานคุณภาพ วันนี้ชวนมาเรียนรู้ เรื่อง การจัดการรพ.ภายใต้สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 “ฝากถึงบุคลากรสาธารณสุขว่า ไม่มีใครรู้ว่าพวกท่านเป็นวีรบุรุษ แต่เราเรียกกันเองว่าเป็น มดงานนิรนาม เราไม่ได้ทำเพื่อชื่อเสียงหน้าตา แต่เราทำเพื่อให้คนไทยทุกคนปลอดภัย ในวันหนึ่งเมื่อเราชนะ ท่านจะภูมิใจในสิ่งที่ท่านได้ทำ” นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค HA Live ณ สรพ. 11 มีนาคม 2563 นอกจากคำพูดที่ก่อให้เกิดกำลังใจในหมู่ชาวสาธารณสุขที่เป็นด่านหน้าในการปะทะกับ COVID-19 แล้ว รองอธิบดีกรมควบคุมโรคยังได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับการจัดการโรงพยาบาลในอีกหลายประเด็น คือ 1. COVID-19 แพร่เชื้อผ่านละอองฝอยน้ำลายและการสัมผัสเชื้อนำเข้าสู่ร่างกาย (droplet transmission) เชื้อมีระยะฟักตัวสั้น Reproductive Number ประมาณ 2.2 มี doubling time 1 สัปดาห์ (จำนวนผู้ป่วยขยายเป็นเท่าตัวในทุก ๆ หนึ่งสัปดาห์) อัตราการเสียชีวิตไม่สูงเหมือน SAR ผู้ป่วย 90%หายได้เอง ผู้ป่วย 5-10% ต้องนอนโรงพยาบาล (ข้อมูลในประเทศจีน มีผู้ป่วย 5% เป็นบุคลากรทางการแพทย์) 2. เป้าหมายการรับมือกับ COVID-19 ในประเทศไทย คือ การชะลอการระบาดไปให้ได้นานที่สุด เพื่อลดความแออัด...
Quality 4.0 All for Quality
เส้นทางการพัฒนาคุณภาพบริการสุขภาพในประเทศไทย (4) Quality 4.0 All for Quality ในช่วงเดียวกับที่ Value-Based Health Care เริ่มเป็นที่สนใจในประเทศไทย สรพ. ก็ได้เริ่มพัฒนากระบวนการประเมินรับรองในลักษณะเครือข่ายสถานพยาบาล โดยมีแนวคิดสำคัญ คือ คุณภาพบริการที่ผู้ป่วยได้รับไม่ควรสะดุดลงเมื่อผู้ป่วยต้องได้รับการส่งต่อ กระบวนการดูแลรักษาที่ดีควรมีการเชื่อมโยงกันทั้งภายในสถานพยาบาลและระหว่างสถานพยาบาลอย่างไร้รอยต่อ (seamless care) จากแนวคิดนี้ นำมาสู่การพัฒนามาตรฐานบริการสุขภาพระดับจังหวัด (Provincial Healthcare Network Certification – PNC) และมาตรฐานระบบสุขภาพระดับอำเภอ (District Health System Accreditation - DHSA)           นอกจากการขยายเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถานพยาบาลอันนำไปสู่คุณภาพการดูแลรักษาที่ดีแล้ว ในระดับนานาชาติยังได้มีการชี้นำและเชื้อชวนให้กลุ่มผู้ป่วย  (ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา เรามองผู้ป่วยเป็นผู้รับผลงาน ที่เราเพียงรับฟังเสียงสะท้อนและความคิดเห็น   เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงงานบริการ)  เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมพัฒนาคุณภาพบริการโดยตรง ซึ่งกลุ่มผู้ป่วยจะมีบทบาทตั้งแต่ขั้นตอนการรับรู้สถานการณ์ร่วมกับสถานพยาบาล ออกแบบระบบบริการร่วมกัน (co-design) สะท้อนประสบการณ์ที่ได้รับ (patient experience) และประเมินผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้น (Patient Reported Outcome Measures – PROMs) ในประเทศไทย การออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับพื้นที่ พ.ศ. 2561...
Quality 3.0 Sustained Quality
เส้นทางการพัฒนาคุณภาพบริการสุขภาพในประเทศไทย (3) Quality 3.0 Sustained Quality คลื่นลูกที่สามเกิดตามหลังคลื่นลูกที่สองไม่นานนัก จากการพยายามแก้โจทย์ว่าถึงการทำงานจะมีผลลัพธ์ที่ดีและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ แต่ถ้ากระบวนการนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ก็จะทำให้สถานะทางการเงินขององค์กรไม่มั่นคง ส่งผลให้ระบบคุณภาพนั้นไม่ยั่งยืน ประสิทธิภาพจึงต้องควบคู่มากับประสิทธิผล ในช่วงตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 เครื่องมือสำคัญที่เข้ามาช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการใน              โรงพยาบาล คือ lean โดย lean ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์กระบวนการ เพื่อเข้าใจว่าในแต่ละขั้นตอนการทำงานนั้น มีขั้นตอนใดหรือกระบวนการใดบ้างที่ไม่สร้างคุณค่าเพิ่มให้แก่ผู้มารับบริการ (Non Value-Added Time) กระบวนการหรือช่วงเวลาที่ไม่เพิ่มคุณค่าถือเป็นการสูญเสีย (Waste)  ที่แฝงอยู่ในกระบวนการ และเราจะทำให้กระบวนการมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถ้าเราออกแบบกระบวนการใหม่หรือปรับปรุงกระบวนการเดิมให้สามารถลดการสูญเสียเหล่านี้ได้ เครื่องมืออีกชุดหนึ่งที่ตามมาและนำมาใช้ควบคู่กับ lean ได้เป็นอย่างดี คือ logistics โดย logistics ในโรงพยาบาล หมายถึง กิจกรรมและกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการวางแผน ดำเนินการ  และควบคุม การไหลของสินค้าและบริการ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้า (เช่น ยา เวชภัณฑ์ พัสดุ และอื่นๆ หรือแม้กระทั่งผู้ป่วย) การกระจายสินค้า การจัดเก็บรักษาสินค้าที่คลังและหอผู้ป่วย ตลอดจนสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จากจุดผลิตหรือจุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดที่มีการใช้งาน Logistics มีองค์ประกอบใหญ่ๆ 3 องค์ประกอบ คือ 1. การบริหารจัดการพัสดุ...
การหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณในโรงพยาบาล
การหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณในโรงพยาบาล “เพราะพื้นฐานของคน คือ อิสรภาพ ถ้าองค์กรไหนเปิดโอกาสให้พนักงานบอกเล่าหรือแสดงความรู้สึกว่าเขา กำลังทุกข์ร้อนได้โดยง่าย เขาจะเป็น some body ไม่ใช่ no body แต่ถ้าองค์กรไหนไม่เปิดโอกาสให้พูดหรือแสดงความเห็น เขาก็จะไม่อยากพูด จะเป็น no body, no meaning, no value เพราะองค์กรทำให้เขาคิดว่า เขาโง่เง่า เต่าตุ่น ไร้ซึ่งความสำคัญ (ดวงสมร บุญผดุง) ความสนใจนำแนวคิดจิตวิญญาณในการทำงานมาใช้ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐาน HA เกิดจากความพยายามที่จะเรียนรู้และเข้าใจถึงผลลัพธ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับโรงพยาบาล ซึ่งต้องจัดบริการเพื่อตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของผู้รับบริการ ท่ามกลางข้อจำกัดและวิกฤตการณ์ต่างๆ ทั้งในด้านการขาดแคลนอัตรากำลัง การขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ และภาระงานที่บุคลากรต้องแบกรับ ความกดดันต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้บุคลากรผู้ปฏิบัติงานไม่มีความสุข เกิดความเครียด และมีภาวะหมดไฟ ไม่สามารถดึงศักยภาพที่มีออกมาใช้ได้ และอาจส่งต่อความรู้สึกด้านลบไปสู่บริการที่ส่งมอบให้แก่ผู้รับบริการได้โดยไม่รู้ตัว จนอาจถูกฟ้องร้องได้ สถานการณ์ดังกล่าวทำให้บุคลากรผู้ปฏิบัติงานสูญเสียศักดิ์ศรีและความมีคุณค่าในความเป็นมนุษย์ ซึ่งเคยมีบทเรียนเกิดขึ้นมาก่อนใน America ช่วงศตวรรษที่ 20 จนบุคลากรในองค์กรต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องถึงคุณค่าความเป็นมนุษย์ แนวคิดเรื่องจิตวิญญาณในการทำงานจึงถูกพัฒนาและนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีผลการวิจัยที่สะท้อนว่า จิตวิญญาณของบุคลากรสามารถยกระดับในการพัฒนางานและสร้างคุณค่าให้เกิดต่อองค์กรได้ สรพ.ได้นำแนวคิดนี้มาใช้ตั้งแต่ปี 2547 แม้ว่ามิติด้านจิตวิญญาณค่อนข้างเป็นนามธรรม แต่ยังมีโรงพยาบาลที่นำแนวคิดเรื่องจิตวิญญาณลงไปปฏิบัติร่วมกับการพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานอื่นจนเกิดผลลัพธ์ที่ดีและได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ SHA Award ในปี 2562 เป็นต้นแบบที่น่าเรียนรู้ในแนวทางของการหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณในโรงพยาบาล ดวงสมร...
คุณภาพที่สังคมสัมผัสได้
คุณภาพที่สังคมสัมผัสได้ “ถ้าโรงพยาบาลผมจะเจ้ง เพราะผมต้องดูแลคนไข้ในมาตรฐานอันควร ผมไม่ลังเล”                                                                                                                 ...
หนึ่งเป้าหมาย หลายเส้นทางสู่จิตวิญญาณในการทำงาน
หนึ่งเป้าหมาย หลายเส้นทางสู่จิตวิญญาณในการทำงาน กระทรวงสาธารณสุขมีบุคลากรกว่าสี่แสนคนทั่วประเทศ แต่ที่เราไม่ทราบคือ คนจำนวนกว่าสี่แสนคนนี้ยัง active หรือ engage กับงานมากแค่ไหน ยังเหลือพลังอยู่เท่าไร หากเราทำให้คนทั้งหมดนี้มีกำลังใจ ในการสร้างสรรผลงาน ไม่ท้อถอย มีจิตใจที่ทุ่มเทก็จะสามารถทำอะไรได้อีกมาก การอภิปรายวิทยากรสองท่านซึ่งเป็นผู้นำเรื่องของ SHA และงานบันดาลใจในการทำงานของประเทศไทยของบุคลากรในระบบสาธารณสุขทุกคน โดยมุ่งหวังว่าจะสามารถ 1. ตอบโจทย์การสร้างประสบการณ์ของบุคลากร (employee experience) ที่มีอยู่หลากหลายรูปแบบ เพื่อนำไปสู่การมีสุขภาวะทางจิตวิญญาณในที่ทำงาน รูปแบบที่ หลากหลายเหล่านี้เปรียบเสมือนเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาที่มีมากมายหลายเส้นทาง แต่ละเส้นทางอาจแตกต่างกัน แต่หากเราเดินทางอย่างมุ่งมั่นแล้ว ทุกเส้นทางต่างก็พาเราไปพบ กันที่ยอดเขาสูงสุดอันเดียวกัน แม้เราจะเดินทางมาคนละเส้นทางก็ตาม 2. ให้แนวคิดและการจัดการองค์กรที่จะสามารถหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณในการทำงานของพนักงาน 3. อธิบายองค์ประกอบที่สำคัญของการจัดการองค์กรเพื่อหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณในการทำงานของบุคลากร คำว่า SHA เดิมมีชื่อที่ยาวมาก (Sustainable Health Care & health Promoting by appreciation & Accreditation) แต่มีการมาปรับเปลี่ยนให้สั้นลง เป็น Spiritual Healthcare Appreciation แปลว่าการใช้จิตวิญญาณ และมุมมองเชิงบวก ในการทำงานระบบสุขภาพ ซึ่งเป็นระบบที่คู่ขนานกับงาน HA(Hospital Accreditation) จนอาจกล่าวได้ว่า HA สอนให้ทำงานอย่างมีหลัก...
- Advertisement -

MOST POPULAR

HOT NEWS